เรื่องย่อ

โยบตำหนิเพื่อนว่าไม่สามารถช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำที่ดีได้ เขารู้สึกสิ้นหวังและเหมือนถูกพระเจ้าทอดทิ้ง พร้อมบอกว่าตัวเองจะตายและขอให้พระเจ้าทรงบันทึกคำพูดของเขา โยบยืนยันว่าตนบริสุทธิ์และว่าเพื่อนๆ ไม่เข้าใจความทุกข์ของเขา

เพื่อนคนหนึ่งชื่อซีฟาร์ โต้ตอบและกล่าวหาโยบว่าทำบาป จึงทำให้เกิดความทุกข์นี้ เขาเตือนโยบถึงความโกรธของพระเจ้าต่อผู้ทำบาป และย้ำถึงความสำคัญของการยอมรับความผิด

การโต้เถียงนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความทุกข์และความยุติธรรมของพระเจ้า โดยโยบยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับความผิดของเขา ขณะที่เพื่อนๆ เชื่อว่าความทุกข์คือผลจากการกระทำของมนุษย์

วันนี้ โยบบอกเพื่อนว่า “จิตใจของฉันแตกสลาย” นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยว คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม? บิลดัด เพื่อนของโยบได้บอกโยบอีกครั้งว่าเขาต้องกลับใจ และย้ำว่าพระเจ้าจะลงโทษคนชั่ว นั่นหมายความว่า ความทุกข์ของโยบคือการลงโทษสำหรับความผิดของเขา และถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลง ตัวเขาอาจเจอโทษหนักขึ้นอีก

โยบพูดถึงบทบาทของพระเจ้าในความทุกข์ของเขา เขาบอกว่ารู้สึกเหมือนพระเจ้าได้สร้างกำแพงกั้นทางของเขา แต่เขายังมีความหวังว่า “พระผู้ไถ่ของข้าพเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (19:25) ซึ่งหมายถึงการเสด็จมาของพระคริสต์ทั้งในอดีตและอนาคต แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด โยบก็ยังมีความเชื่อในพระเจ้า

จากนั้น โซฟาร์ เพื่อนคนที่สาม ก็พูดถึงวิญญาณที่เขาเชื่อว่าพูดกับเขา แต่บทพูดจากวิญญาณนี้ไม่ได้บอกว่าใคร และโซฟาร์ใช้สิ่งนี้เพื่อทำให้คำพูดของเขาฟังดูมีน้ำหนัก

สุดท้าย โซฟาร์กล่าวว่าโยบเห็นแก่ตัวและโลภ โดยกล่าวหาว่าโยบทำร้ายคนจนและไม่รู้จักความพอเพียง แต่ถ้าเราดูคำพูดของพระเจ้าที่ให้กับโยบ จะเห็นว่าคำพูดของเขาตรงข้ามกับความจริง

นี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมเราต้องอ่านพระคัมภีร์พร้อมกับบริบท เพราะถ้าเราเว้นแต่บริบท เราอาจจะเข้าใจผิดว่าโยบเป็นคนไม่ดี ทั้งที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่พระเจ้าเห็นคุณค่าและสัมผัสด้วยความรัก

ข้อคิด: โยบ 17-20

โยบกล่าวว่า “ข้าพเจ้าทราบว่าพระผู้ไถ่ของข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ และในที่สุดพระองค์จะทรงยืนบนแผ่นดินโลก” ข้อความนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างโยบกับพระเจ้า แม้ในวันที่ชีวิตของเขาทรุดโทรม โยบเรียกพระเจ้าว่า “พระผู้ไถ่ของข้าพเจ้า” ซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดและส่วนตัว

โยบมีความหวังในเรื่องการไถ่ถอน ซึ่งหมายถึงการ “ซื้อกลับคืน” เขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แม้ว่าสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้น เขายังมั่นใจว่าพระเจ้าจะช่วยเขาในสักวัน

นอกจากนี้ โยบเน้นว่าพระเจ้านั้นยังมีชีวิตอยู่ แม้คนที่เขารักจะจากไป แต่พระเจ้ายังคงอยู่กับเขาเสมอ การรักษาความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าในใจจะช่วยให้เราเผชิญกับความยากลำบากได้ เพราะพระองค์คือแหล่งที่มาของความชื่นชมยินดีในชีวิตเรา!

คำถาม

• ความสิ้นหวังและสุขภาพจิต: โยบแสดงความสิ้นหวังและความทุกข์ทรมานอย่างรุนแรง นี่สะท้อนถึงความท้าทายด้านสุขภาพจิตในสังคมปัจจุบัน เราควรจัดการกับความสิ้นหวังและโรคซึมเศร้าอย่างไร? การแสวงหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญหรือไม่? สังคมควรให้การสนับสนุนผู้ที่ประสบกับความทุกข์ทางจิตใจอย่างไร?
• ความยุติธรรมและการลงโทษ: อีลิฟัสกล่าวโทษโยบว่าได้รับความทุกข์เพราะบาปของเขา นี่นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมและการลงโทษ ความเชื่อมโยงระหว่างความทุกข์และความบาปเป็นอย่างไร? ความยุติธรรมควรเป็นแบบใด? ควรลงโทษผู้กระทำผิดอย่างไร? และควรพิจารณาอะไรบ้างในการลงโทษ?

การไถ่ (Redemption) หมายถึงการที่พระเยซูคริสต์ทรงเสียสละพระองค์เองเพื่อปลดปล่อยมนุษยชาติจากบาปและความตาย เป็นการซื้อเสรีภาพของเราคืนมาจากบาปด้วยเลือดของพระองค์เอง

 ทำไมเราจึงต้องการการไถ่?

• บาป: มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาป ซึ่งเป็นการขัดต่อพระบัญญัติของพระเจ้า และทำให้เราแยกจากพระองค์
• ความตาย: ความตายเป็นผลมาจากบาป และเป็นจุดจบของชีวิตทางโลก

พระเยซูคริสต์ทรงทำอะไร?

• การเสียสละบนไม้กางเขน: พระเยซูทรงสละพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชดใช้บาปของมนุษย์ทั้งหมด
• การฟื้นคืนพระชนม์: หลังจากสิ้นพระชนม์ พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ แสดงให้เห็นถึงชัยชนะเหนือความตายและบาป

การไถ่มีความสำคัญอย่างไร?

• การให้อภัย: การไถ่ทำให้เราได้รับการอภัยบาปจากพระเจ้า
• ชีวิตนิรันดร์: การไถ่เปิดประตูสู่ชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์
• ความสัมพันธ์กับพระเจ้า: การไถ่ทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า

การไถ่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเราอย่างไร?

• การกลับใจ: การรับการไถ่เริ่มต้นจากการกลับใจจากบาป
• ความเชื่อ: เราต้องเชื่อในพระเยซูคริสต์และการเสียสละของพระองค์
• การดำเนินชีวิตใหม่: การมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์หมายถึงการดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์

การไถ่เป็นของขวัญอันล้ำค่าที่พระเจ้าประทานให้แก่เราทุกคน เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ การเข้าใจถึงการไถ่จะช่วยให้เรามีความหวังและความหมายในชีวิตมากขึ้น