เรื่องย่อ
โยบตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมของพระเจ้า โดยสังเกตว่าคนชั่วมักเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่คนดีต้องทนทุกข์ เขารู้สึกไม่เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังความทุกข์ของตนและความสุขของคนชั่ว โยบยืนยันความบริสุทธิ์ของตนและขอให้พระเจ้าพิสูจน์เขา เขาต้องการโต้แย้งกับพระเจ้าและให้พระเจ้าฟังคำอธิษฐาน
เขาเปรียบเทียบชีวิตของตนกับคนชั่ว และสงสัยว่าทำไมคนชั่วจึงมีความสุข ขณะเขาทุกข์ทรมาน โยบรู้สึกสิ้นหวังและถูกทอดทิ้ง แต่ยังไม่เห็นด้วยกับเพื่อนที่บอกว่าคนชั่วต้องได้รับการลงโทษ เขาตั้งใจจะพบพระเจ้า ขอให้พระเจ้าพิพากษาเขาอย่างยุติธรรม และอธิบายเหตุผลที่ทำให้เขาทุกข์
แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โยบยังรักษาความหวังที่จะได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความยุติธรรมจากพระเจ้า
เพื่อนของโยบมักชี้ว่าเขาประสบปัญหาเพราะประพฤติตัวชั่วร้าย ความเชื่อนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าทำดี จะได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า แต่ถ้าทำชั่ว จะถูกลงโทษ เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หลายคนเริ่มสงสัยว่าพระเจ้ากำลังลงโทษอยู่หรือไม่
โยบโต้แย้งว่าคนชั่วกลับมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง ขณะที่เขาต้องทุกข์ทรมาน นี่ทำให้เขาตั้งคำถามว่า ชีวิตไม่ใช่เครื่องวัดความบริสุทธิ์เสมอไป ความดีอาจเกิดกับคนชั่ว ซึ่งดูเหมือนไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงความกรุณาและพระคุณของพระเจ้า เราอาจไม่ต้องการสิ่งที่ยุติธรรมมากนัก
เอลีฟาซแนะนำให้โยบตกลงกับพระเจ้า แต่โยบรู้สึกห่างไกลจากพระเจ้าและต้องการโต้แย้งกับพระองค์ เขากล่าวว่าเขาไม่สามารถเห็นพระเจ้าทำงานในชีวิตของเขา แต่ยังเชื่อว่าพระเจ้าทรงงานอยู่ แม้จะรู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
โยบยอมรับอำนาจของพระเจ้าและแม้จะมีความสงสัย เขาก็ยังไม่สาปแช่งพระเจ้า เขายอมจำนนต่อแผนการของพระองค์ แม้จะไม่มีการควบคุมสถานการณ์ เขายังคงไว้ใจในอำนาจและความยุติธรรมของพระเจ้า
ข้อคิด: โยบ 21-23
พระเจ้าทรงทำงานแม้เราไม่เห็นว่าสิ่งใดเกิดขึ้น พระองค์ยังคงควบคุม และกระทำการต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะแย่งกับความกลัวและต้องการคำตอบ แต่พระเจ้าก็ยังอยู่ที่นั่น โยบรู้ดีว่าเมื่อพระองค์ทำงาน เขาไม่สามารถเห็นพระองค์ แต่เขาต้องการพูดคุยกับพระเจ้า อาจเพื่อหาคำตอบ หรือเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
สิ่งสำคัญคือ โยบรู้ว่าพระเจ้าทรงเข้าใจเขาในขณะที่ไม่มีใครอื่นเข้าใจ พระเจ้าทราบดีว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างไรและไม่เพียงแค่เดา โยบไว้วางใจในพระเจ้าแม้จะมีเรื่องร้ายมากมายเกิดขึ้น เขารู้ว่าพระองค์คือแหล่งของความสุขและความชื่นชมยินดี!
คำถาม
- ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจ: โยบสังเกตเห็นว่าคนชั่วร้ายมักจะร่ำรวยและมีอำนาจ ในขณะที่คนดีกลับยากจนและทุกข์ยาก นี่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน เราควรจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันนี้ได้อย่างไร? ระบบเศรษฐกิจและสังคมควรออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความยุติธรรมและความเสมอภาคหรือไม่? และมีวิธีการใดบ้างที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น?
- ความหมายของชีวิตที่ดี: โยบตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิตที่ดี หากคนชั่วร้ายสามารถมีชีวิตที่สุขสบายได้ แล้วความหมายของการเป็นคนดีคืออะไร? ความหมายของชีวิตที่ดีคืออะไร? การแสวงหาความร่ำรวยและอำนาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? หรือมีเป้าหมายอื่นที่สำคัญกว่า?
คำกล่าวที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" เป็นหลักการพื้นฐานที่หลายคนคุ้นเคย แต่เมื่อนำมาพิจารณาในมุมมองของคริสเตียน จะพบว่าเรื่องราวกลับซับซ้อนกว่าที่คิดมาก
พระคัมภีร์สอนอะไรเกี่ยวกับการกระทำของเรา?
พระคัมภีร์ยืนยันว่า การกระทำของเรามีผลต่อชีวิตของเราและผู้อื่นอย่างแน่นอน พระเยซูตรัสไว้ว่า "เพราะว่าด้วยสิ่งใดที่คนกล่าวออกไป คนนั้นย่อมได้รับการพิพากษา" (มัทธิว 12:37) นั่นหมายความว่าคำพูดและการกระทำของเราจะนำไปสู่ผลที่ตามมา ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตนิรันดร์
ทำไมคนดีบางคนถึงเจอเรื่องร้าย?
แม้พระคัมภีร์จะสอนว่าคนดีจะได้รับพร แต่ในความเป็นจริงเรามักเห็นคนดีต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก และคนชั่วร้ายกลับประสบความสำเร็จ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
- แผนการของพระเจ้า: บางครั้งความทุกข์ยากที่เราเจออาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพระเจ้าเพื่อให้เราเติบโตในความเชื่อและความสัมพันธ์กับพระองค์
- ผลของบาปดั้งเดิม: บาปดั้งเดิมทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย และทุกคนต้องเผชิญกับผลกระทบจากบาป
- การทดสอบศรัทธา: ความทุกข์ยากอาจเป็นการทดสอบศรัทธาของเรา เพื่อให้เราได้เรียนรู้ที่จะวางใจในพระเจ้าอย่างเต็มที่
- เวลาของพระเจ้า: ผลของการกระทำบางอย่างอาจไม่ปรากฏให้เห็นในทันที แต่พระเจ้าทรงเห็นทุกสิ่ง และจะทรงตอบแทนในเวลาที่เหมาะสม
การทำดีเพื่ออะไร?
คริสเตียนทำดีไม่ใช่เพราะหวังผลตอบแทนในชีวิตนี้ แต่เพราะความรักที่มีต่อพระเจ้าและผู้อื่น การทำดีเป็นการแสดงออกถึงความขอบคุณต่อพระเจ้าที่ทรงรักและช่วยเหลือเรา และเป็นการตอบแทนพระคุณของพระองค์
สิ่งที่เราควรทำเมื่อเกิดความสงสัย
- ศึกษาพระคัมภีร์: พระคัมภีร์เป็นคำตอบสำหรับคำถามทุกข้อที่เราสงสัย
- อธิษฐาน: พูดคุยกับพระเจ้าเกี่ยวกับความสงสัยและขอให้พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงแก่เรา
- ปรึกษาผู้รู้: พูดคุยกับผู้นำคริสตจักรหรือเพื่อนคริสเตียนคนอื่นๆ เพื่อขอคำแนะนำ
- อดทน: บางครั้งคำตอบอาจไม่ปรากฏให้เห็นในทันที แต่จงเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอ