Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 ซามูเอล 25

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 ซามูเอล 26

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 ซามูเอล 27

เรื่องย่อ

ท่ามกลางทะเลทรายกว้างใหญ่ ดาวิดพบกับความท้าทายใหม่ในรูปแบบของนาบาล ชายผู้มั่งคั่งแต่ใจแข็ง ซึ่งปฏิเสธที่จะช่วยเหลือดาวิดและกองกำลังของเขา แม้จะได้รับการคุ้มครองจากพวกเขามาก่อน ความหยิ่งยโสของนาบาลเกือบจะนำไปสู่ความหายนะ หากไม่ใช่เพราะความฉลาดและการทูตของอาบีกายิล ภรรยาของเขา ที่เข้ามาขอขมาและนำเสบียงมามอบให้ดาวิด ทำให้ดาวิดสงบลงและเปลี่ยนใจจากการล้างแค้น หลังการตายของนาบาล ดาวิดรับอาบีกายิลเป็นภรรยา ซึ่งกลายเป็นเครื่องเตือนใจถึงการจัดการสถานการณ์ด้วยสติปัญญาและความสุภาพ ในขณะเดียวกัน ดาวิดยังคงต้องหลบหนีจากการตามล่าของกษัตริย์ซาอูล แต่เลือกที่จะไว้ชีวิตซาอูลแม้จะมีโอกาส ซึ่งสะท้อนถึงความเคารพต่อสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ เป็นเรื่องราวที่เน้นย้ำถึงการตัดสินใจด้วยปัญญาและความเมตตาในยามคับขัน

 


เรื่องราวในพระธรรม 1 ซามูเอล 25-27 แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่สำคัญของดาวิดในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยเมื่อซาอูลยอมรับว่าฝ่ายดาวิดจะเป็นกษัตริย์องค์ถัดไป ดาวิดได้ปกป้องฝูงแกะของนาบาล แต่กลับได้รับการปฏิเสธและการดูหมิ่นจากเขา ดาวิดจึงเคลื่อนความโกรธไปสู่การแก้แค้น แต่โชคดีที่อาบิเกล ภรรยาของนาบาล ได้มาเสนออาหารและขอโทษ เปลี่ยนใจดาวิดจากการทำผิดพระบัญชา และช่วยชีวิตคนบริสุทธิ์จากความโกรธของเขา สิ่งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของการมีปัญญาและความเมตตาในในช่วงที่มีความเครียดในชีวิต

เมื่อกลับไปยังบ้านของนาบาล เขาได้รับข่าวร้ายและจบลงด้วยการตาย ดาวิดได้แต่งงานกับอาบิกายิล ซึ่งทำให้เขามีพันธะที่ดีขึ้นในขณะที่สถานการณ์ของเขายังคงตึงเครียด เนื่องจากซาอูลยังคงตามล่าดาวิดอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ดาวิดจะมีโอกาสฆ่าซาอูลในค่ายของเขา แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น โดยเชื่อว่าเขาจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าแทน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและความซื่อสัตย์ของเขา

สุดท้าย ดาวิดเริ่มรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจที่จะออกจากอิสราเอลไปหากษัตริย์อาคีชแห่งฟิลิสเตีย เพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัย ดาวิดหวังว่าจะได้รับการปกป้อง แต่ก็ยังเลือกที่จะโกหกเกี่ยวกับการโจมตีเมืองเล็กๆ และทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอาคีช ในที่สุด นี่คือช่วงเวลาที่ดาวิดต้องเผชิญกับความท้าทายและการทดลองที่นำไปสู่การตัดสินใจที่อาจมีผลกระทบยาวนานต่อชีวิตของเขาและอิสราเอล

 

ข้อคิด: 1ซามูเอล 25-27

พระเจ้าทรงทำงานอย่างงดงามผ่านอาบิกายิล พระองค์ทรงประทานปัญญาแก่เธอเพื่อให้เธอรู้วิธีคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังจะลุกลามเกินการควบคุม เราต้องวางใจพระเจ้าอย่างแท้จริงจึงจะเข้าสู่ความโกลาหลและสร้างสันติสุขได้ พระคัมภีร์กล่าวถึงเธอว่าเป็นผู้หญิงที่มีวิจารณญาณซึ่งพระเจ้าประทานให้ สุภาษิต 16:21 กล่าวว่า “คนมีใจฉลาดเรียกว่ามีวิจารณญาณ และคำพูดที่ไพเราะทำให้คนโน้มน้าวใจได้” คนมีใจฉลาดรู้ดีว่าความสุขไม่ได้เกิดจากการได้สิ่งที่ต้องการ แต่เกิดจากการยอมตามทางของพระองค์ เพราะพระองค์เป็นที่ที่ความสุขอยู่!

 

คำถาม

1.   การแสดงเมตตาและความเห็นอกเห็นใจ: ในบทที่ 25 มีการเล่าเรื่องของอาบิเกลที่แสดงความเมตตาต่อดาวิดในช่วงเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือ ความสามารถในการแสดงเมตตาในสถานการณ์ที่ตึงเครียดมีความสำคัญอย่างไรในชีวิตประจำวัน? เราสามารถสร้างโอกาสในการแสดงความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไรในชุมชนของเรา?

2.   การตัดสินใจในสถานการณ์ที่ยากลำบาก: ในบทที่ 26-27 ดาวิดต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ท้าทายเกี่ยวกับการหลบหนีจากซาอูลและการอยู่ในดินแดนที่ไม่เป็นมิตร คุณคิดว่าการตัดสินใจในช่วงเวลาที่เครียดนั้นมีผลต่ออนาคตของเราอย่างไร? เราสามารถพัฒนาทักษะและแนวทางในการตัดสินใจที่ดีกว่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนได้อย่างไร?

 

 

อาบิกายิล (אֲבִיגַיִל) ภาษาอังกฤษ อ่านว่า Avigail ชื่อ "อาบิเกล" มาจากคำภาษาฮีบรูสองคำรวมกันคือ:

  • אָב (Av) หมายถึง พ่อ
  • גִיל (Gil) หมายถึง ความสุข, ความยินดี, ความปลาบปลื้ม

ดังนั้น ความหมายโดยรวมของชื่อ อาบิเกล (אֲבִיגָיִל) คือ "ความสุขของพ่อ" หรืออาจตีความได้ว่า "พ่อของฉันมีความสุข" หรือ "แหล่งแห่งความยินดีของพ่อ"

เรื่องราวของอาบิเกลปรากฏในพระธรรม 1 ซามูเอล บทที่ 25-27 เป็นเรื่องราวที่โดดเด่นของผู้หญิงที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดและอันตราย

เนื้อเรื่องโดยสรุป:

  • นาบาลผู้โง่เขลา: อาบิเกลเป็นภรรยาของนาบาล ชายผู้ร่ำรวยแต่หยาบคายและใจร้าย เมื่อดาวิดและคนของเขาซึ่งเคยปกป้องฝูงแกะของนาบาลร้องขอเสบียงอาหาร นาบาลปฏิเสธอย่างไม่ใยดีและกล่าวคำดูถูกดาวิด
  • ความโกรธของดาวิด: ดาวิดโกรธมากและตัดสินใจที่จะนำคนของเขาไปสังหารนาบาลและคนในบ้านของเขาเพื่อแก้แค้น
  • การแทรกแซงของอาบิเกล: เมื่อคนรับใช้คนหนึ่งของนาบาลรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาจึงรีบไปบอกอาบิเกล อาบิเกลตระหนักถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้น เธอจึงรีบจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มมากมาย แล้วออกไปพบดาวิดโดยไม่ได้บอกสามี
  • สติปัญญาและการอ้อนวอนของอาบิเกล: เมื่ออาบิเกลพบดาวิด เธอก้มลงกราบแทบเท้าเขาและกล่าวคำอ้อนวอนด้วยสติปัญญา เธอขอโทษแทนความโง่เขลาของสามี เตือนดาวิดไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดพลาดที่จะทำให้เขาเสียใจในภายหลัง และยกย่องดาวิดในฐานะผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร
  • การตอบสนองของดาวิด: ดาวิดประทับใจในสติปัญญาและความนอบน้อมของอาบิเกล เขาจึงยกโทษให้นาบาลและขอบคุณอาบิเกลที่ยับยั้งเขาไว้จากการกระทำที่ผิด
  • การตายของนาบาลและการแต่งงานกับดาวิด: เมื่ออาบิเกลกลับไปถึงบ้าน นาบาลกำลังกินเลี้ยงอย่างสนุกสนาน เธอไม่ได้บอกเรื่องราวให้เขาทราบจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อนาบาลได้ยินเรื่องราว เขาก็ตกใจจนเป็นอัมพาต และหลังจากนั้นประมาณสิบวันเขาก็ตาย เมื่อดาวิดทราบข่าวการตายของนาบาล เขาก็ส่งคนไปขออาบิเกลมาเป็นภรรยา

ข้อคิดและบทเรียนสอนใจ:

เรื่องราวของอาบิเกลเต็มไปด้วยข้อคิดและบทเรียนอันล้ำค่าที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้:

1.   สติปัญญาสำคัญกว่าความงามภายนอก: อาบิเกลได้รับการบรรยายว่าเป็นผู้หญิงที่ "มีสติปัญญาดีและรูปร่างงดงาม" (1 ซามูเอล 25:3) แต่สิ่งที่โดดเด่นและช่วยกอบกู้สถานการณ์คือสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดของเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณค่าภายในนั้นสำคัญยิ่งกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

2.   การตัดสินใจที่รอบคอบและรวดเร็วในสถานการณ์วิกฤต: เมื่ออาบิเกลทราบถึงภัยพิบัติที่จะมาถึง เธอไม่ได้ลังเล แต่รีบตัดสินใจและดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเตรียมของขวัญและออกไปพบดาวิด การตัดสินใจที่เด็ดขาดและทันท่วงทีของเธอช่วยป้องกันการนองเลือดได้

3.   การใช้คำพูดที่สุภาพและมีเหตุผล: คำพูดของอาบิเกลที่กล่าวต่อดาวิดเต็มไปด้วยความนอบน้อม การขอโทษแทนผู้อื่น การให้เหตุผลที่หนักแน่น และการเตือนสติด้วยความเคารพ คำพูดที่ไพเราะและมีเหตุผลของเธอสามารถลดความโกรธและเปลี่ยนใจของดาวิดได้

4.   ความกล้าหาญในการทำสิ่งที่ถูกต้อง: อาบิเกลกล้าที่จะขัดขืนการตัดสินใจที่โง่เขลาของสามี และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับดาวิดผู้มีอำนาจ การกระทำของเธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญทางศีลธรรมในการทำสิ่งที่ถูกต้องแม้จะมีความเสี่ยง

5.   ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาพระเจ้า: แม้ว่าอาบิเกลจะลงมือแก้ไขสถานการณ์ด้วยตนเอง แต่คำพูดของเธอก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในพระเจ้าและการทรงนำของพระองค์ เธอเตือนดาวิดว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องเขาและประทานชัยชนะให้แก่เขา

6.   การเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย: อาบิเกลทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างนาบาลผู้โง่เขลาและดาวิดผู้โกรธแค้น การแทรกแซงของเธอช่วยป้องกันความขัดแย้งและการสูญเสียที่ไม่จำเป็น

7.   ผลของการกระทำ: เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นถึงผลของการกระทำของแต่ละบุคคล ความโง่เขลาและความใจร้ายของนาบาลนำไปสู่ความตายของเขา ในขณะที่สติปัญญาและความเมตตาของอาบิเกลนำมาซึ่งความรอดพ้นและเกียรติยศ

8.   การเลือกคู่ครอง: เรื่องราวของอาบิเกลและนาบาลเป็นอุทาหรณ์ที่เตือนใจถึงความสำคัญของการเลือกคู่ครองที่มีคุณธรรมและสติปัญญา การแต่งงานกับคนพาลอาจนำมาซึ่งความทุกข์และความเดือดร้อน

9.   พระเจ้าทรงยกชูผู้ที่ถ่อมใจ: ในที่สุด อาบิเกลก็ได้กลายเป็นภรรยาของดาวิด ซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล การยกชูของเธออาจมองได้ว่าเป็นรางวัลสำหรับสติปัญญา ความนอบน้อม และความเชื่อมั่นในพระเจ้า

โดยสรุปแล้ว เรื่องราวของอาบิเกลใน 1 ซามูเอล บทที่ 25-27 เป็นเรื่องราวที่ทรงพลังและให้แรงบันดาลใจเกี่ยวกับสตรีที่มีสติปัญญา ความกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในพระเจ้า บทเรียนจากชีวิตของเธอเป็นสิ่งที่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อนำทางชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้ในทุกวันนี้