Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 17

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 35

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 54

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 63

เรื่องย่อ

เมื่อดาวิดเผชิญหน้ากับความยากลำบากและศัตรูที่รุมล้อม คำสดุดีของเขากลายเป็นบทเพลงแห่งความเชื่อและการวิงวอนต่อพระเจ้า ในบทสดุดี 17 ดาวิดขอการปกป้องและความยุติธรรมจากพระเจ้า ท่ามกลางความไม่เที่ยงของมนุษย์ สดุดี 35 เป็นคำวิงวอนเพื่อความยุติธรรมต่อศัตรูที่มุ่งร้าย โดยดาวิดแสดงความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะต่อสู้แทนเขา ในบทสดุดี 54 ดาวิดร้องทูลขอความช่วยเหลือและการช่วยกู้จากพระเจ้าเมื่อถูกรายล้อมด้วยศัตรูที่ทรยศ สุดท้ายในสดุดี 63 มีความลึกซึ้งของการแสวงหาพระเจ้าในดินแดนแห้งแล้ง สะท้อนถึงความกระหายที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกบทสดุดีเหล่านี้เผยให้เห็นถึงหัวใจที่แสวงหาพระเจ้าผ่านการทดสอบและความทุกข์ยากของดาวิด ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจในการแสวงหาความมั่นคงในพระเจ้าอย่างแน่วแน่

 

หลังจากที่ซามูเอลเจิมดาวิดเป็นกษัตริย์ ชีวิตของดาวิดก็เต็มไปด้วยความท้าทายมากขึ้น เขาได้หันไปพึ่งพาพระเจ้าผ่านคำอธิษฐานและการสรรเสริญ ในสดุดี 17 ดาวิดยืนยันถึงความบริสุทธิ์จากการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมของซาอูล เขารู้ว่าถึงแม้จะเคยหลอกลวงเพื่อเอาตัวรอด แต่พระเจ้าย่อมเห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา ในกรณีของซาอูลและนาบาล ดาวิดเห็นว่าการดำเนินชีวิตโดยการพึ่งพาพระเจ้านั้นทรงพลัง และสัจธรรมคือสิ่งที่คนเหล่านั้นขาดไป

ในสดุดี 35 ดาวิดขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในเชิงการทหาร โดยใช้ภาพรบที่สะท้อนทั้งความเป็นจริงและเชิงจิตวิญญาณ เขาเชื่อว่าทูตสวรรค์หรือพระบุตรของพระเจ้าจะมาเป็นผู้ช่วยเหลือในยามยาก ดาวิดแสดงให้เห็นถึงความยำเกรงโดยให้คำสัญญาว่าจะสรรเสริญพระเจ้า และแม้เขาจะถูกใส่ร้าย เขาก็ยังคงขอความยุติธรรมจากพระเจ้าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความไว้วางใจในพระคุณของพระเจ้า

สดุดี 54 และ 63 สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างดาวิดกับชาวเมืองศิฟและความท้าทายทางจิตใจในถิ่นทุรกันดาร ดาวิดมีความปรารถนาที่จะกลับไปสรรเสริญพระเจ้าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนที่จะซ่อนตัวจากการถูกข่มเหง เขารู้ถึงพลังแห่งความเชื่อในพระเจ้าและพยายามรักษาความไว้วางใจต่อสิ่งที่พระองค์จะทำต่อศัตรูของเขาและความกระหายสำหรับการประทับอยู่ของพระเจ้าในชีวิตของเขา.

 

ข้อคิด: สดุดี 17; 35; 54; 63

ดาวิดยึดมั่นในพระเจ้า เพราะแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไกลจากพลับพลา แต่การประทับอยู่ของพระเจ้ายังคงอยู่กับเขา ในถิ่นทุรกันดาร เมื่อทุกสิ่งที่พระเจ้าสัญญาไว้กับเขาดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ดาวิดรู้ว่าพระเจ้าทรงค้ำจุนเขาไว้ “แต่กษัตริย์จะชื่นชมยินดีในพระเจ้า ทุกคนที่สาบานในพระองค์จะรื่นเริง เพราะปากของคนโกหกจะถูกปิด” (63:11) ศรัทธาของเขาได้รับการเสริมสร้าง และเขารู้ว่าสามสิ่งนี้เป็นความจริง: (1) เขาจะเป็นกษัตริย์ เพราะพระเจ้าสัญญาไว้ (2) พระเจ้าทรงเชื่อถือได้และควรได้รับคำสรรเสริญ และ (3) ในที่สุด พระเจ้าที่เชื่อถือได้และควรได้รับคำสรรเสริญจะทรงกระทำความยุติธรรม ในดินแดนรกร้างว่างเปล่าของดาวิด เขาเปิดปากที่แห้งแล้งเพื่อสรรเสริญพระเจ้า ดาวิดรู้ว่าพระองค์อยู่ที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   การแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้าในช่วงเวลาที่ยากลำบาก: ในสดุดีบทที่ 17 ดาวิดร้องขอความช่วยเหลือและการปกป้องจากพระเจ้า เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต เรารู้สึกถึงความจำเป็นในการขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างไร? คุณมีประสบการณ์ในการพึ่งพาความเชื่อในพระเจ้าในช่วงที่ชีวิตการต่อสู้ได้อย่างไร?

2.   ความสำคัญของการขอบคุณและการเห็นคุณค่า: ในสดุดีบทที่ 63 ดาวิดแสดงความขอบคุณและการรู้คุณต่อพระเจ้า คุณคิดว่าการมีจิตใจที่ขอบคุณในชีวิตประจำวันสามารถส่งผลต่ออารมณ์และความสัมพันธ์ของเราได้อย่างไร? เราสามารถพัฒนานิสัยการขอบคุณในชีวิตของเราได้อย่างไรเพื่อเสริมสร้างความสุขและความสงบในจิตใจ?

 

 

การเจิมดาวิดโดยซามูเอลเป็นเหตุการณ์สำคัญในพระคัมภีร์ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการแต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ แต่ยังเต็มไปด้วยข้อคิดและบทเรียนสอนใจที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตของเราได้ ดังนี้:

1. พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ ไม่ใช่มองที่รูปลักษณ์ภายนอก:

  • เมื่อซามูเอลไปบ้านของเจสซีเพื่อเจิมกษัตริย์องค์ใหม่ เขาประทับใจในรูปร่างหน้าตาและส่วนสูงของเอลีอับ บุตรชายคนโตของเจสซี แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า "อย่ามองที่รูปร่างหน้าตาหรือความสูงของเขา เพราะเราไม่เลือกเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนที่มนุษย์ทอดพระเนตร มนุษย์มองที่รูปลักษณ์ภายนอก แต่พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ" (1 ซามูเอล 16:7)
  • บทเรียน: อย่าตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ฐานะทางสังคม หรือความสามารถที่เห็นได้ชัด แต่ให้มองลึกลงไปถึงจิตใจและคุณธรรมภายใน

2. พระเจ้าทรงเลือกผู้ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ:

  • ดาวิดเป็นบุตรชายคนเล็กและมีหน้าที่เลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นงานที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญในสายตาของคนทั่วไป แต่พระเจ้าทรงเลือกดาวิดให้เป็นกษัตริย์
  • บทเรียน: พระเจ้าสามารถใช้คนที่เรามองว่าด้อยค่าหรือไม่สำคัญ เพื่อทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้ อย่าดูถูกศักยภาพของตนเองและผู้อื่น และจงถ่อมใจให้พระเจ้าทรงใช้

3. การเจิมเป็นการทรงเรียกและมอบอำนาจ:

  • การเจิมด้วยน้ำมันเป็นสัญลักษณ์ของการทรงเรียกจากพระเจ้าและการมอบพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเตรียมดาวิดให้พร้อมสำหรับบทบาทกษัตริย์
  • บทเรียน: เมื่อพระเจ้าทรงเรียกเราให้ทำสิ่งใด พระองค์จะทรงมอบอำนาจและสติปัญญาที่จำเป็นในการทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ จงวางใจในพระเจ้าและพึ่งพาการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์

4. ความสำคัญของการเชื่อฟังและการรอคอย:

  • ถึงแม้ดาวิดจะได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ขึ้นครองราชย์ทันที เขายังคงรับใช้กษัตริย์ซาอูลและรอคอยเวลาที่พระเจ้ากำหนด
  • บทเรียน: การเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเจ้าและการรอคอยตามเวลาของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าเราจะได้รับการสัญญาหรือการทรงเรียกแล้วก็ตาม จงอดทนและไว้วางใจในแผนการของพระเจ้า

5. พระเจ้าทรงเตรียมเราสำหรับสิ่งยิ่งใหญ่ผ่านสิ่งเล็กน้อย:

  • การที่ดาวิดเลี้ยงแกะด้วยความซื่อสัตย์และกล้าหาญในการปกป้องฝูงแกะ เป็นการฝึกฝนและเตรียมเขาให้พร้อมที่จะเป็นผู้นำและปกป้องประชากรของพระเจ้า
  • บทเรียน: จงซื่อสัตย์และตั้งใจทำในสิ่งเล็กน้อยที่เราได้รับมอบหมาย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการเตรียมเราสำหรับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต

6. พระเจ้าทรงมองหาผู้ที่มีจิตใจที่สัตย์ซื่อ:

  • สิ่งที่ทำให้พระเจ้าทรงเลือกดาวิดไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นจิตใจที่สัตย์ซื่อและจงรักภักดีต่อพระองค์
  • บทเรียน: สิ่งที่สำคัญที่สุดในสายพระเนตรของพระเจ้าคือจิตใจของเรา จงรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์และซื่อตรงต่อพระองค์

7. การเจิมไม่ได้หมายถึงชีวิตที่ราบรื่น:

  • ถึงแม้ดาวิดจะได้รับการเจิม แต่ชีวิตของเขาก็ยังคงเผชิญกับความยากลำบาก การถูกตามล่า และการทดลองต่างๆ
  • บทเรียน: การได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราจะปราศจากปัญหา แต่พระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับเราและเสริมกำลังเราในทุกสถานการณ์

เหตุการณ์ที่ซามูเอลเจิมดาวิดเป็นกษัตริย์ สอนให้เราตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงในสายพระเนตรของพระเจ้า ความสำคัญของการเชื่อฟัง การรอคอย การเตรียมตัวผ่านสิ่งเล็กน้อย และการมีจิตใจที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ บทเรียนเหล่านี้ยังคงเป็นจริงและสามารถนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคริสเตียนของเราในปัจจุบันได้