Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
2 ซามูเอล 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
2 ซามูเอล 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
2 ซามูเอล 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
2 ซามูเอล 4

เรื่องย่อ

เมื่อข่าวร้ายถึงการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ซาอูลมาถึงดาวิด มันกลายเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งความสูญเสียและความห่วงใยต่ออนาคตของอิสราเอล ดาวิดร้องไห้และจัดพิธีไว้อาลัยให้กับซาอูลและโยนาธานเพื่อนรักของเขา ในช่วงต้นของพระธรรม 2 ซามูเอล ดาวิดได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์เหนือเผ่าของยูดาห์ แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากอาบียาเชอร์ ลูกชายของซาอูลได้ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ในอิสราเอล ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างดาวิดและอาบียาเชอร์ ผลที่ตามมาคือสงครามกลางเมืองที่เหล่าเผ่าต่างๆ ต้องเลือกข้าง ในบทที่ 4 ดาวิดได้ยืนยันจุดยืนของตนในฐานะผู้ครองอิสราเอล เมื่อเขาได้รับข่าวความตายของอาบียาเชอร์ ผู้ที่เคยพยายามทำลายเขา ดาวิดไม่แสดงความยินดี แต่กลับมีความเศร้าโศกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เห็นถึงความจงรักภักดีและความเป็นผู้นำที่มีเมตตาของเขา ในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวิดยังคงเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีในอิสราเอลเพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคตที่สดใส

 

ก่อนที่ซามูเอลจะเสียชีวิต เขาได้แต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่คือดาวิด แต่ยังไม่มีแบบอย่างและแผนการต่อเนื่องสำหรับการปกครอง ในเวลานั้น ดาวิดไม่ได้อยู่ในการต่อสู้ที่ซาอูลกษัตริย์องค์ก่อนทำศึกอยู่ เพราะเขาอยู่ในฟีลิสเตีย เอาชนะชาวอามาเลคแล้ว ผู้ส่งสารคนหนึ่งมาแจ้งเขาว่าซาอูลเสียชีวิต ซึ่งกลับกลายเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับดาวิด เนื่องจากเขาเป็นผู้เคารพต่อซาอูล และคนของซาอูลบางคนก็แต่งตั้งอิชโบเชธ บุตรชายของซาอูล เป็นกษัตริย์แทนอิสราเอลส่วนที่เหลือ ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกกันในประเทศ

ดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ แต่เขาปะทะกับอิชโบเชธ ที่คนของซาอูลในเผ่าอื่นตั้งใจให้เป็นกษัตริย์ด้วย ทำให้เกิดการปะทะกันต่อเนื่อง ระหว่างที่อับเนอร์ ผู้บัญชาการทีมอิชโบเชธ ประกาศสงบศึกเพื่อสร้างสันติ อับเนอร์ได้รับข้อกล่าวหาว่าพยายามแสดงอำนาจเหนืออิชโบเชธ จึงตัดสินใจสนับสนุนดาวิดแทน ในกระบวนนี้ อับเนอร์ถูกโยอาบ ผู้บัญชาการทัพของดาวิด ฆ่าเนื่องจากความระแวง

ณ จุดนี้ ซาอูลเหลือเพียงหลานชาย เมฟิโบเชธ ผู้มีข้อจำกัดทางร่างกายเนื่องจากอุบัติเหตุ ถือว่าไม่เป็นภัยต่อบัลลังก์ของดาวิด อีกทั้งอิชโบเชธถูกสังหารไปแล้วจากกัปตันทหารของตัวเองที่แปรพรรคไปหาดาวิด ดาวิดสั่งลงโทษผู้สังหารอิชโบเชธ และในที่สุดแผนการของพระเจ้าที่ให้ดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอลก็ใกล้เป็นจริงขึ้นทุกที

 

ข้อคิด: 2 ซามูเอล 1-4

คนคิดว่าการฆ่าศัตรูของดาวิดจะทำให้เขาพอใจ แต่ดาวิดกลับกล่าวว่า “วันนี้ข้าพเจ้าสุภาพอ่อนโยน แม้ว่าจะได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์” (3:39) ตำแหน่งกษัตริย์อาจทำให้ผู้คนเกรงกลัว และมองว่าเขาอาจมีความแข็งกร้าว แต่ดาวิดระบุว่าเขาไม่ใช่กษัตริย์ในแบบนั้น พระเจ้าตั้งดาวิดว่าเป็น “คนที่ถูกใจพระองค์” (1 ซามูเอล 13:14) ซึ่งสะท้อนถึงพระทัยของพระเจ้า และพระเจ้าทรงเคยตรัสว่า “เราไม่พอใจในความตายของคนชั่ว แต่ต้องการให้พวกเขาละทิ้งสิ่งชั่วร้ายเพื่อมีชีวิตอยู่” (เอเสเคียล 33:11 NLT) แม้ว่าจะเป็นกษัตริย์ แต่ดาวิดก็มีความอ่อนโยน ทำให้เป็นกษัตริย์ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้และรู้สึกมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้และพระองค์คือที่ที่ความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   การเผชิญกับการสูญเสียและการไว้อาลัย: ในบทที่ 1 ดาวิดแสดงความเศร้าโศกต่อการตายของซาอูลและโยนาธาน แม้จะเป็นศัตรูของเขาในบางจุด คุณสามารถดำเนินการไว้อาลัยหรือให้เกียรติในรูปแบบใดบ้างเมื่อเผชิญกับการสูญเสีย?

2.   การใช้ภาวะผู้นำในช่วงการเปลี่ยนแปลง: ในบทที่ 2-4 ดาวิดเริ่มต้นการเป็นผู้นำของอิสราเอลและต้องเผชิญกับความซับซ้อนของการเมืองและอำนาจ เรายังสามารถเรียนรู้จากการตัดสินใจและการกระทำของดาวิดเพื่อเป็นผู้นำที่มีสติปัญญาในสมัยนี้ได้อย่างไร?

 

 

เมฟิโบเชธ (מְפִיבֹשֶׁת - Məp̄îḇōše) เป็นบุคคลสำคัญในพระธรรม 2 ซามูเอล

ความหมายของชื่อ เมฟิโบเชธ ในภาษาฮีบรู:

ชื่อมีความหมายที่เป็นไปได้หลายอย่างในภาษาฮีบรู ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับความอับอายหรือความเสื่อมเสีย:

  • מְפִי (məp̄î) อาจมาจากรากศัพท์ที่แปลว่า "จากปากของฉัน" หรือ "การหายใจออกของฉัน"
  • בֹּשֶׁת (bōše) แปลว่า "ความอับอาย", "ความเสื่อมเสีย", "ความน่าละอาย"

ดังนั้น ความหมายโดยรวมของชื่อ "เมฟิโบเชธ" อาจแปลได้ว่า:

  • "ผู้ที่นำมาซึ่งความอับอาย"
  • "จากปากแห่งความอับอาย"
  • "การหายใจออกแห่งความเสื่อมเสีย"

เป็นไปได้ว่าชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นภายหลังเหตุการณ์ที่เขาประสบอุบัติเหตุจนพิการ หรืออาจมีความหมายอื่นที่สูญหายไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม ความหมายที่เกี่ยวข้องกับความอับอายนั้นค่อนข้างชัดเจน

 

เมฟิโบเชธใน 2 ซามูเอล คือใคร:

  • เขาเป็นโอรสของโยนาธาน พระราชโอรสของกษัตริย์ซาอูล และเป็นหลานของกษัตริย์ซาอูล
  • เมื่อเขามีอายุได้ห้าขวบ บิดาและปู่ของเขาเสียชีวิตในการรบที่ภูเขาโบอา (Gilboa) แม่เลี้ยงของเขาตกใจกลัวข่าวร้ายจึงรีบอุ้มเขาหนี แต่ทำเขาพลัดตก ทำให้เขากลายเป็นคนพิการที่เท้าทั้งสองข้าง
  • หลังจากนั้น เขาอาศัยอยู่ที่โลเดบาร์ (Lo Debar) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ห่างไกลและไม่สำคัญ ภายใต้การดูแลของมาคีร์ บุตรอัมมีเอล
  • หลายปีต่อมา เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงครองราชย์และทรงระลึกถึงมิตรภาพที่พระองค์มีต่อโยนาธาน ดาวิดทรงปรารถนาที่จะแสดงความเมตตาต่อวงศ์วานของซาอูลเพื่อเห็นแก่โยนาธาน
  • ดาวิดทรงเรียกเมฟิโบเชธมาเข้าเฝ้า และทรงคืนที่ดินทั้งหมดของซาอูลให้แก่เขา และทรงอนุญาตให้เขารับประทานอาหารที่โต๊ะหลวงเหมือนโอรสของกษัตริย์ตลอดชีวิตของเขา
  • ต่อมา เมื่อดาวิดทรงหนีจากการกบฏของอับซาโลม ศิบาห์ (Ziba) ข้ารับใช้ของเมฟิโบเชธ ได้ทูลใส่ร้ายเมฟิโบเชธต่อดาวิดว่าเขาต้องการจะยึดราชบัลลังก์ ดาวิดทรงเชื่อคำของศิบาห์และทรงมอบทรัพย์สินของเมฟิโบเชธให้แก่ศิบาห์
  • เมื่อดาวิดเสด็จกลับมายังเยรูซาเล็ม เมฟิโบเชธได้เข้าพบและอธิบายความจริง ดาวิดทรงเห็นว่าพระองค์ทรงตัดสินผิดพลาด แต่ก็ทรงแบ่งทรัพย์สินให้เมฟิโบเชธและศิบาห์คนละครึ่ง

เรื่องราวของเมฟิโบเชธสอนบทเรียนที่สำคัญหลายประการ:

1.  ความเมตตาและความซื่อสัตย์ของพระเจ้า (ผ่านดาวิด): ดาวิดแสดงให้เห็นถึงความเมตตาและความซื่อสัตย์ต่อคำสัญญาที่เขามีต่อโยนาธาน แม้ว่าโยนาธานจะเสียชีวิตไปแล้ว ดาวิดก็ยังคงแสวงหาและดูแลลูกชายของเขา นี่สะท้อนถึงความรักและความซื่อสัตย์ของพระเจ้าที่มีต่อพันธสัญญาของพระองค์

2.  พระคุณที่ไม่สมควรได้รับ: เมฟิโบเชธเป็นเพียงหลานชายของกษัตริย์องค์ก่อน และเขายังพิการอีกด้วย เขาไม่มีสิ่งใดที่จะเสนอให้กับดาวิด แต่ดาวิดกลับทรงแสดงพระคุณอย่างล้นเหลือต่อเขา โดยคืนทรัพย์สินและให้เขาร่วมโต๊ะเสวย นี่เป็นภาพที่แสดงถึงพระคุณของพระเจ้าที่เราได้รับ แม้ว่าเราจะไม่สมควรได้รับก็ตาม

3.  การมองข้ามสถานะทางสังคมและสภาพร่างกาย: ดาวิดไม่ได้ทรงมองว่าเมฟิโบเชธเป็นเพียงคนพิการที่ไม่มีความสำคัญ แต่ทรงเห็นคุณค่าในฐานะที่เป็นบุตรของเพื่อนรักของพระองค์ เรื่องนี้สอนเราให้มองข้ามสถานะทางสังคม รูปลักษณ์ภายนอก หรือความบกพร่อง และให้เกียรติทุกคนในฐานะเพื่อนมนุษย์

4.  ผลกระทบจากความพิการและอุปสรรคในชีวิต: เมฟิโบเชธต้องเผชิญกับความยากลำบากเนื่องจากความพิการของเขา การพลัดตกในวัยเด็กส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขาอย่างมาก เรื่องนี้ทำให้เราตระหนักถึงความท้าทายที่ผู้พิการต้องเผชิญ และกระตุ้นให้เราแสดงความเห็นอกเห็นใจและให้การสนับสนุน

5.  อันตรายของการใส่ร้ายและการฟังความข้างเดียว: เรื่องราวที่ศิบาห์ใส่ร้ายเมฟิโบเชธสอนเราถึงอันตรายของการฟังความข้างเดียวและการตัดสินผู้อื่นโดยปราศจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ การตัดสินใจที่เร็วจนเกินไปอาจนำไปสู่ความอยุติธรรม

6.  ความสำคัญของการอธิบายความจริง: เมื่อถูกใส่ร้าย เมฟิโบเชธไม่ได้ยอมจำนน แต่เขาได้อธิบายความจริงต่อดาวิด แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่เป็นที่น่าพอใจทั้งหมด แต่การสื่อสารความจริงเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขความเข้าใจผิด

7.  ความซับซ้อนของความเป็นมนุษย์และการให้อภัย: การตัดสินใจของดาวิดที่แบ่งทรัพย์สินให้ทั้งเมฟิโบเชธและศิบาห์ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของสถานการณ์และความยากลำบากในการตัดสินใจที่ยุติธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังอาจสะท้อนถึงความเมตตาและการให้อภัยของดาวิดในระดับหนึ่ง

โดยรวมแล้ว เรื่องราวของเมฟิโบเชธเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความเมตตา ความซื่อสัตย์ พระคุณ และผลกระทบของความบกพร่องและการใส่ร้าย ซึ่งยังคงให้บทเรียนที่มีคุณค่าแก่เราในปัจจุบัน