เรื่องย่อ

เมื่อการทูตมีผลกระทบสำคัญต่อการสร้างสัมพันธภาพระหว่างประเทศ ใน 2 ซามูเอล บทที่ 10 ดาวิดส่งสารไปให้ฮานูน ราชาแห่งอัมมอนเพื่อแสดงความเห็นใจต่อการสิ้นพระชนม์ของบิดา แต่การกระทำของฮานูนกลับนำไปสู่ความขัดแย้งเมื่อเขาเหยียดหยามทูตของดาวิด ทำให้สงครามเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอัมมอนและพันธมิตรของพวกเขา ใน 1 พงศาวดาร บทที่ 19 เรื่องราวเดียวกันนี้ถูกบอกเล่าสำหรับการเน้นย้ำถึงความหมายและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับความไม่ไว้วางใจ ซึ่งนำไปสู่ชัยชนะของดาวิดในการต่อสู้ เมื่อดาวิดแสดงความสามารถทางการทหารที่น่าทึ่ง ในขณะที่สดุดี 20 มีการวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อการพิชิตในการต่อสู้และการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยมีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับชัยชนะผ่านความชอบธรรมและการอธิษฐาน เพลงสดุดีนี้แสดงถึงความเชื่อของประชากรที่วางใจว่าเมื่อพวกเขาหันไปหาพระเจ้าในยามสงคราม พระองค์จะทรงตอบสนองต่อความหวังของพวกเขาและมอบชัยชนะกลับคืนสู่พวกเขา นับเป็นการเตือนใจให้เห็นถึงพลังของการวางใจในพระเจ้าท่ามกลางความตึงเครียดและความขัดแย้ง

วันนี้เกิดเหตุการณ์สำคัญเมื่อกษัตริย์อัมโมนเสียชีวิต ดาวิดซึ่งเป็นมิตรกับกษัตริย์อัมโมนได้แสดงความมีน้ำใจต่อฮานูนผู้เป็นทายาทของบัลลังก์ โดยหวังจะส่งเสริมความสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบ้าน แต่ที่ปรึกษาของฮานูนกลับไม่ไว้วางใจในเจตนาของดาวิด ด้วยความระแวง พวกเขาได้กระทำการดูหมิ่นผู้แทนของดาวิด โดยการโกนหนวดและตัดเสื้อผ้าจนเกิดความอับอาย นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย

แทนที่จะตอบโต้ทันที ดาวิดกลับเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ชาวอัมโมนไม่พอใจกับท่าทีนี้ จึงได้ว่าจ้างทหารรับจ้างเพื่อเตรียมทำสงครามกับอิสราเอล ดาวิดส่งกองทัพของเขาเข้าสู่สนามรบนำโดยโยอาบ การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดแต่ด้วยความเชื่อและความมั่นใจในพระเจ้า ทำให้อิสราเอลสามารถเอาชนะศัตรูได้ ในท้ายที่สุดทหารรับจ้างชาวซีเรียก็เลือกที่จะหันมาทำสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลแทน

ในหมู่ข้อถกเถียงเกี่ยวกับจำนวนรถศึกในตำนานพระคัมภีร์ ทั้งจากซามูเอลและพงศาวดารที่ให้ตัวเลขต่างกัน การถกเถียงนี้ช่วยสะท้อนความพยายามอันยาวนานในการรักษาความถูกต้องของต้นฉบับ โดยคำนึงถึงว่าไม่ว่าเรื่องของจำนวนจะแตกต่างกันเพียงใด ความเชื่อของผู้คนก็ยังคงมั่นคง สดุดี 20 เป็นเพลงที่ยืนยันถึงคำสัญญาของพระเจ้าต่อดาวิด โดยเผยให้เห็นว่าแม้ในยามยากลำบาก พระเจ้าก็ยังคอยช่วยเหลือและสนับสนุนประชากรของพระองค์เสมอ ข้อความดังกล่าวเน้นย้ำถึงความบริสุทธิ์และความหวังที่มาจากพระองค์ในทุกสถานการณ์

ข้อคิด: 2 ซามูเอล 10; 1พงศาวดาร 19; สดุดี 20

“ขอพระองค์ประทานความปรารถนาของท่านให้เป็นไปตามที่ใจปรารถนาและทำตามแผนการทั้งหมดของท่าน” (สดุดี 20:4) ดาวิดรู้ว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานนี้ด้วยคำตอบว่าใช่ได้ก็ต่อเมื่อความปรารถนาและแผนการเหล่านั้นสอดคล้องกับความปรารถนาและแผนการของพระเจ้า มิฉะนั้นก็จะถือว่าไม่ดีนัก เนื่องจากแผนการของพระเจ้ามักจะดีที่สุดเสมอ นี่ไม่ใช่คำขอแบบเหมารวมให้พระเจ้าลดตัวของพระองค์ลงมาเป็นเพียงยักษ์จินนีและทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่มีความหมายแฝงว่าพระองค์จะสอดคล้องและสอดคล้องกับพระเจ้าจนเราอธิษฐานขอสิ่งที่พระองค์วางแผนไว้ ขอให้พระองค์ทำให้ใจของเราสอดคล้องกับพระองค์ เพราะพระองค์คือที่ที่ความปีติยินดีอยู่!

คำถาม

1.   ความไว้วางใจในพระเจ้าท่ามกลางความยุ่งยากและความขัดแย้ง: จากเหตุการณ์ใน 2 ซามูเอล 10 และ 1 พงศาวดาร 19 ซึ่งเล่าเรื่องความท้าทายและการต่อสู้ในช่วงเวลาที่อาณาจักรของดาวิดและเหล่าศัตรูเผชิญกับความขัดแย้ง คำถามคือ ในชีวิตประจำวันของเรา เราจะสามารถรักษาความเชื่อและความไว้วางใจในพระเจ้าได้อย่างไรในช่วงเวลาที่เผชิญกับความทุกข์ ความไม่แน่นอน หรือความขัดแย้งที่รุนแรงในสังคม?

2.   การอธิษฐานและการหวังพึ่งพระเจ้าก่อนเผชิญความยากลำบาก: สดุดี 20 เน้นความสำคัญของการอธิษฐานและหวังพึ่งพระเจ้าในยามที่ต้องเผชิญกับความลำบาก คำถามคือ เราจะใช้บทเรียนจากสดุดีนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการอธิษฐานและเสริมความหวังในชีวิตประจำวันได้อย่างไร เพื่อให้สามารถผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ไปได้อย่างแน่วแน่และมั่นใจในพระคุณและการช่วยเหลือของพระเจ้า?

สดุดีบทที่ 20 เป็นบทที่ให้กำลังใจและความมั่นใจในพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากหรือการเผชิญหน้ากับศัตรู แม้จะเป็นบทสั้นๆ แต่ก็มีข้อคิดและหลักการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ดังนี้ครับ:

1.   การทูลขอการช่วยเหลือจากพระเจ้าในยามยากลำบาก: "ขอพระยาห์เวห์ทรงตอบท่านในวันยากลำบาก ขอพระนามของพระเจ้าของยาโคบปกป้องท่าน" (ข้อ 1) สอนให้เราพึ่งพาพระเจ้าและทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์เมื่อเผชิญปัญหา

2.   ความเชื่อมั่นในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า: "ขอพระองค์ทรงส่งความช่วยเหลือจากสถานบริสุทธิ์ของพระองค์ และทรงค้ำจุนท่านจากศิโยน" (ข้อ 2) เตือนให้เราเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจที่จะช่วยเหลือเราได้จากสวรรค์

3.   การระลึกถึงเครื่องบูชาและการถวายของเรา: "ขอพระองค์ทรงระลึกถึงเครื่องบูชาทั้งหมดของท่าน และทรงยอมรับเครื่องเผาบูชาของท่าน" (ข้อ 3) แม้พระเจ้าไม่ต้องการเครื่องบูชาในตัวมันเอง แต่การถวายด้วยใจจริงเป็นการแสดงความรักและความภักดีต่อพระองค์

4.   การอธิษฐานขอให้สำเร็จตามความปรารถนา: "ขอพระองค์ประทานตามใจปรารถนาของท่าน และให้แผนงานทั้งหมดของท่านสำเร็จ" (ข้อ 4) เราสามารถทูลขอสิ่งที่อยู่ในใจต่อพระเจ้าด้วยความเชื่อมั่น

5.   การชื่นชมยินดีในชัยชนะที่มาจากพระเจ้า: "เมื่อนั้นเราจะโห่ร้องด้วยความยินดีในชัยชนะของท่าน และในพระนามของพระเจ้าของเรา เราจะชูธงขึ้น ขอพระยาห์เวห์ทรงให้คำขอทั้งหมดของท่านสำเร็จ" (ข้อ 5) การตระหนักว่าชัยชนะมาจากพระเจ้าทำให้เราถวายเกียรติแด่พระองค์

6.   ความมั่นใจว่าพระเจ้าทรงช่วยกู้ผู้ที่ทรงเจิมไว้: "บัดนี้ข้าพเจ้าทราบแล้วว่า พระยาห์เวห์ทรงช่วยกู้ผู้ที่ทรงเจิมไว้ พระองค์จะทรงตอบเขาจากสวรรค์อันบริสุทธิ์ของพระองค์ ด้วยฤทธิ์เดชแห่งชัยชนะของพระหัตถ์ขวาของพระองค์" (ข้อ 6) ผู้ที่เชื่อและติดตามพระเจ้าสามารถมั่นใจในการช่วยเหลือของพระองค์

7.   การไม่วางใจในกำลังของตนเองหรือสิ่งฝ่ายโลก: "บางคนวางใจในรถรบ และบางคนวางใจในม้า แต่เราจะระลึกถึงพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา" (ข้อ 7) สอนให้เราไม่พึ่งพาความสามารถของตนเอง ทรัพย์สิน หรืออำนาจฝ่ายโลก แต่ให้วางใจในพระเจ้าเท่านั้น

8.   ความพ่ายแพ้ของผู้ที่วางใจในสิ่งอื่น: "เขาทั้งหลายทรุดลงและล้ม แต่เราลุกขึ้นและยืนอยู่มั่นคง" (ข้อ 8) ผู้ที่พึ่งพาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าจะพบกับความล้มเหลว

9.   การทูลขอการช่วยเหลือและการตอบสนองจากพระเจ้า: "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยกู้เถิด ขอพระองค์ทรงตอบเราในวันที่เราร้องทูล" (ข้อ 9) เป็นการปิดท้ายด้วยการย้ำถึงความสำคัญของการทูลขอและการเชื่อมั่นในการตอบสนองของพระเจ้า

หวังว่าข้อคิดและหลักการเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของคุณนะครับ!