Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 8

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 9

เรื่องย่อ

พระธรรมสุภาษิตบทที่ 7-9 เน้นการเตือนสติเรื่องความสำคัญของปัญญาและการเลือกทางที่ถูกต้องในชีวิต บทที่ 7 เตือนถึงอันตรายของความล่อลวงและความหลงใหลในสิ่งลวงตาที่อาจนำไปสู่ความเสื่อมเสีย โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ซื่อสัตย์ ส่วนบทที่ 8 เน้นความสำคัญของปัญญา ที่เปรียบเสมือนเสียงเรียกจากธรรมชาติเตือนใจให้เราเลือกเส้นทางคุณธรรมและความรู้สึกสบายใจ บทที่ 9 สอนให้เราตัดสินใจด้วยความรู้สึกที่ดีและเลือกเข้าใกล้ความหวังและชีวิตที่แสนสุข ซึ่งประกอบกันเป็นคำเตือนและคำเสนอแนวทางให้ดำเนินชีวิตโดยมีปัญญานำทาง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความสงบในใจตนเองในระยะยาว

 

วันนี้เรายังคงเรียนรู้คำสอนจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากความลำบาก เช่นเดียวกับคำแนะนำของพ่อที่เน้นให้ลูกชายระวังสายตา มือ และหัวใจ เพราะสิ่งเหล่านี้สำคัญมากในการดำเนินชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ พ่อเตือนให้ลูกชายหลีกเลี่ยงการเข้าไปในทางที่เสี่ยงและอันตราย ซึ่งในที่นี้หมายถึงเส้นทางของหญิงชู้สาว ที่มักใช้ความเย้ายวนใจหรือความซื่อสัตย์ปลอมแปลง เพื่อชักจูงให้หลงทาง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีปัญญาและความเข้มแข็งในใจเพื่อเลือกทางที่ถูกต้องตามคำสอนของพระเจ้า

ในอีกด้านหนึ่ง พระคัมภีร์อธิบายถึงหญิงฉลาดที่เป็นตัวแทนของปัญญา เธอเสนอคำแนะนำ การเข้าใจ และความเป็นผู้นำในทางที่ดี ในทางกลับกัน หญิงชู้หรือความเย้ายวนล่อลวงเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความตายและความสูญเสีย พ่อเน้นให้ลูกชายเลือกเส้นทางของปัญญาและความรักในพระเจ้า เพราะการแสวงหาทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันและจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

คำสอนของพ่อเน้นให้ลูกชายหลบเลี่ยงบาปทางเพศและให้ความสำคัญกับการแสวงหาปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่ชีวิตที่ยั่งยืนและมีความสุข ถ้าพ่อเคยผิดพลาดในชีวิตก็อาจเป็นเหตุผลที่เขาสอนให้ระวังเรื่องนี้อย่างมาก เพราะเขาต้องการให้ลูกชายไม่ทำผิดพลาดเหมือนกัน โซโลมอน ซึ่งเป็นผู้เขียนคำสอนเหล่านี้ ก็เป็นตัวอย่างของการเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งในด้านความชาญฉลาดและความโง่เขลาจากความเสี่ยงของบาปทางเพศ เพื่อให้ลูกชายได้ประโยชน์และเลือกทางที่ถูกต้องตามคำสอนของพระเจ้า

 

ข้อคิด: สุภาษิต 7-9

สุภาษิต 8:30–31 อธิบายถึงปัญญาว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้ารักและชื่นชมเหมือนกัน กับความรู้สึกสนุกสนานและความสุขที่พระเจ้ามีต่อการสร้างสรรค์โลกและมนุษย์ นักวิชาการบางคนเชื่อว่าคำเหล่านี้ยังเชื่อมโยงไปถึงพระคริสต์ด้วย เพราะคำว่า “ความชื่นชมยินดี” ในภาษาฮีบรูหมายถึงการเล่นสนุกและความสนุกสนาน พระเจ้าที่รักปัญญาก็เหมือนกับคนที่เล่นอย่างสนุกสนานและมีความสุขในการสร้างสรรค์ พระองค์ดูเหมือนจะยิ้มและมีความสุขอยู่เสมอเมื่อมองดูสิ่งที่พระองค์สร้างไว้ รวมทั้งมนุษย์และความสมดุลของชีวิต ความรู้สึกของพระเจ้าที่มีต่อเราและปัญญานั้นเป็นความสุขและความสนุกสนานอย่างลึกซึ้ง พระองค์ทรงเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี และความรู้สึกนี้ก็สะท้อนให้เราเห็นว่าสิ่งที่พระเจ้ารักและชื่นชมมากที่สุดคือ ปัญญาและการสร้างสรรค์บนโลกนี้ และพระองค์คือที่ที่ความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   ในยุคที่ความเสี่ยงจากอิทธิพลล่อลวงและความเสื่อมถอยทางจริยธรรมยังคงสูงเช่นนี้ คำสอนในสุภาษิต 7 ที่เตือนเรื่องความระวังตัวและการรู้จักเลือกเส้นทางชีวิต จะสามารถช่วยสร้างแนวทางที่มั่นคงและปลอดภัยต่อคริสตจักรได้อย่างไร?

2.   สุภาษิต 8 เน้นความสำคัญของปัญญาและการฟังเสียงของพระธรรมในชีวิตประจำวัน คำสอนนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ในคริสตจักรอย่างไร เพื่อให้เข้าใจคุณค่าของการแสวงหาความรู้และปัญญาจากพระเจ้า?

 

 

ข้อคิดจากสุภาษิตบทที่ 7-9

สุภาษิตบทที่ 7 เป็นคำเตือนที่ชัดเจนและหนักแน่นเกี่ยวกับ อันตรายจากการล่วงประเวณี หรือการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส โดยเฉพาะการถูกล่อลวงจากหญิงแพศยาหรือชายชู้ บทนี้พรรณนาถึงวิธีการล่อลวงของหญิงแพศยาอย่างละเอียด ตั้งแต่การแต่งกาย การใช้คำพูดที่อ่อนหวานน่าฟัง ไปจนถึงการจัดเตรียมสถานที่และโอกาสที่เอื้อต่อการทำบาป

  • คำเตือนถึงคนหนุ่มสาว: บทนี้เน้นย้ำถึงความเปราะบางของคนหนุ่มสาวที่ขาดประสบการณ์และปัญญา ทำให้ง่ายต่อการตกหลุมพรางของการล่อลวง
  • ผลลัพธ์อันเลวร้าย: ผู้ที่หลงผิดในทางนี้จะพบกับความพินาศ ความอับอาย การสูญเสียทรัพย์สิน สุขภาพ และแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง เปรียบเสมือนวัวที่ถูกจูงไปโรงฆ่าสัตว์ หรือนกที่ติดบ่วงแร้ว
  • การรักษาใจและตา: สิ่งสำคัญคือการรักษาใจและตาไม่ให้หลงไปตามความปรารถนาชั่วร้าย และยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระเจ้า

ข้อคิดจากสุภาษิตบทที่ 8: คุณค่าและแหล่งที่มาของปัญญา

สุภาษิตบทที่ 8 แสดงให้เห็นถึง ปัญญาที่ถูกอุปมาเป็นบุคคล ที่ประกาศตัวอยู่ท่ามกลางผู้คน เชื้อเชิญให้ทุกคนมาหาและรับเอาปัญญาไป

  • ปัญญาคือสิ่งสูงสุด: ปัญญาถูกนำเสนอว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เหนือกว่าทองคำ เงิน และเพชรพลอยใดๆ
  • ปัญญามาจากพระเจ้า: ปัญญาเป็นของพระเจ้า และเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงใช้ในการทรงสร้างโลก การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งล้วนมาจากปัญญาของพระองค์
  • ประโยชน์ของปัญญา: ผู้ที่มีปัญญาจะได้รับประโยชน์มากมาย เช่น ความรู้ ความเข้าใจ การตัดสินใจที่ถูกต้อง ความยุติธรรม ความมั่งคั่ง และชีวิตที่ยืนยาว
  • ปัญญาเรียกหาทุกคน: ปัญญาไม่ได้สงวนไว้สำหรับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ประกาศเรียกหาทุกคนให้มาหาและเรียนรู้

ข้อคิดจากสุภาษิตบทที่ 9: สองทางเลือก: ปัญญาหรือความเขลา

สุภาษิตบทที่ 9 เปรียบเทียบ ปัญญาและความเขลา (ความโง่เขลา) เป็นสตรีสองคน ที่เชิญชวนผู้คนให้มาหาตนเอง

  • งานเลี้ยงของปัญญา: ปัญญาเชิญชวนผู้คนให้มารับประทานอาหารที่เตรียมไว้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรู้ ความเข้าใจ และชีวิตที่แท้จริง ผู้ที่มาหาปัญญาจะได้รับชีวิตและเดินในทางแห่งความเข้าใจ
  • งานเลี้ยงของความเขลา: ความเขลาเชิญชวนผู้คนที่ไร้เดียงสาและขาดปัญญาให้มาร่วมงานเลี้ยง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความผิดบาปและการกระทำที่ไร้สาระ แม้จะดูน่าสนใจในตอนแรก แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความตายและความหายนะ
  • ความแตกต่างของผลลัพธ์: ผู้ที่เลือกปัญญาจะได้รับชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข ส่วนผู้ที่เลือกความเขลาจะพบกับความตายและความทุกข์ยาก
  • ความเกรงกลัวพระเจ้าคือบ่อเกิดปัญญา: บทนี้ยังย้ำอีกครั้งว่า ความเกรงกลัวพระเจ้าคือบ่อเกิดของปัญญา และการรู้จักองค์บริสุทธิ์คือความเข้าใจที่แท้จริง

สุภาษิตบทที่ 7-9 เน้นย้ำอย่างต่อเนื่องถึง ความสำคัญของปัญญา ในการดำเนินชีวิต ปัญญาช่วยให้เรา หลีกเลี่ยงอันตรายจากความบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล่วงประเวณี ซึ่งนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย และช่วยให้เรา เลือกเดินในทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยพระพรและความเข้าใจที่แท้จริง และรากฐานของปัญญาที่แท้จริงนั้นเริ่มต้นที่ ความเกรงกลัวพระเจ้า