Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 พงศ์กษัตริย์ 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
2 พงศาวดาร 4

เรื่องย่อ

ในพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 7 และ 2 พงศาวดาร บทที่ 4 ถ่ายทอดความงดงามและความยิ่งใหญ่ของพระวิหารซาโลมอนที่เต็มไปด้วยรายละเอียดการสร้างอันประณีตและศิลปะหลากหลาย เช่น การสร้างแท่นบูชา ขันน้ำทองคำ และภาชนะที่ประดับด้วยทองคำเปลว ซึ่งแสดงถึงความรอบคอบและความพิถีพิถันของช่างฝีมือ รวมไปถึงความสำคัญของสัญลักษณ์และของตกแต่งที่แสดงถึงความเคารพต่อพระเจ้า พระวิหารไม่เพียงเป็นสถานที่นมัสการ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองด้านศิลปะและจิตวิญญาณของอิสราเอล ทำให้พระราชวังและพระวิหารกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและความเป็นเลิศของยุคนั้น

 


วันนี้เราจะหยุดการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับวิหารและเปลี่ยนมามองดูราชวังของซาโลมอนกันบ้าง ซาโลมอนได้สร้างราชวังที่ใหญ่โตและสวยงามมาก แต่เรากลับเห็นว่ามีสิ่งที่น่าเศร่าแฝงอยู่ในเรื่องนี้ เมื่อคนงานชาวคานาอันใช้เวลาหนึ่งเดือนในงานสร้างวิหาร และอีกสองเดือนในการสร้างราชวังของซาโลมอน ซึ่งใหญ่กว่ามาก ราชวังของซาโลมอนประกอบด้วยพระราชวัง ห้องโถงบัลลังก์ และห้องเสา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาใช้ทรัพยากรและกำลังแรงงานจำนวนมากเพื่อสร้างราชวังของเขา ครอบคลุมถึงสิ่งที่เขาสร้างเพื่อความหรูหราและความสบาย สู้สร้างพระวิหารไม่ได้เท่ากับสร้างบ้านส่วนตัวของเขาเองเลย

ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ในวิหาร ซาโลมอนจ้างช่างฝีมือที่เก่งมาก เพื่อสร้างสิ่งของที่สวยงามและมีคุณค่า โดยเฉพาะช่างฮิรัม ซึ่งมีความสามารถและปัญญา ช่างนี้ไม่ใช่แค่คนที่ทำงานเก่งเท่านั้น แต่ยังมีความเข้าใจในด้านความซื่อสัตย์และเครื่องเสียงของอัญมณี นอกจากนี้ ซาโลมอนยังให้สร้างอ่างสำริดที่มีปริมาณมาก และเทียนเมโนราห์ที่หรูหรามาก ซึ่งแม้พระเจ้าจะขอเพียงอันเดียว แต่เขากลับสร้างถึงสิบอัน สิ่งของเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราที่ซาโลมอนสร้างขึ้นในพระวิหาร เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมั่งคั่งของเขาอย่างมาก

การสร้างราชวังของซาโลมอนสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในความตั้งใจอย่างชัดเจน ซาโลมอนใช้ทรัพยากรอย่างมากมายเพื่อความสุขส่วนตัวและความหรูหรา ทำให้เราตั้งคำถามว่า เขาให้ความสำคัญกับพระวิหารและความศรัทธามากแค่ไหน ในขณะที่ความงดงามและความมั่งคั่งที่เขาแสดงออกอาจไม่ตรงกับความซื่อสัตย์และความรักต่อพระเจ้าอย่างจริงใจ เรื่องนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เราควรตั้งคำถามกับความสำคัญของสิ่งที่เราสร้างขึ้นและค่าที่แท้จริงในชีวิตของเราเอง

 

ข้อคิด: 1พงศ์กษัตริย์ 7; 2 พงศาวดาร 4

1 พงศ์กษัตริย์ 7:21 เราอ่านเกี่ยวกับเสาหลักสองต้นของวิหารซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีข้อความว่า “ท่านได้ตั้งเสาไว้ทางทิศใต้ และได้ตั้งชื่อว่ายาคิน และท่านได้ตั้งเสาไว้ทางทิศเหนือ และได้ตั้งชื่อว่าโบอาส” ชื่อยาคินหมายถึง “พระองค์จะทรงสถาปนา” และชื่อโบอาสหมายถึง “ด้วยกำลัง” พระองค์จะทรงสถาปนาด้วยกำลัง ในสถานที่ที่พวกเขาเข้าไปในวิหารของพระเจ้า ซึ่งพวกเขาเข้ามาใกล้พระพักตร์ของพระองค์ ขณะที่พวกเขาเดินผ่านเสาที่ค้ำยันวิหารไว้ พวกเขาได้รับการเตือนว่าพระเจ้าทรงริเริ่มสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และพระองค์ทรงค้ำจุนทั้งหมดนี้ และสิ่งที่พระองค์ทรงริเริ่มจะไม่เพียงแต่จะค้ำจุนเท่านั้น แต่จะสำเร็จลุล่วงด้วย เพราะพระองค์ทรงทำสิ่งเหล่านี้ด้วยกำลัง แต่อย่าผูกพันกับวิหารใหม่ที่สวยงามแห่งนี้มากเกินไป เพราะในที่สุดมันก็จะถูกทำลาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอะไรจะไม่ถูกทำลาย? การประทับอยู่ของพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ วิหารแห่งนี้ควรจะเป็นบ้านชั่วคราวสำหรับพระองค์เสมอมา พระองค์ไม่ได้สถิตอยู่ในอาคารอีกต่อไป พระองค์ทรงสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ และคุณรู้ไหมว่าพระองค์ทรงสัญญากับเราด้วยคำสัญญาเดียวกันนี้ ฟิลิปปี 1:6 กล่าวไว้ว่า “พระองค์ผู้ทรงเริ่มงานดีในพวกท่าน จะทรงทำให้สำเร็จในวันของพระเยซูคริสต์” พระองค์จะทรงสถาปนาด้วยกำลัง สถาปนาด้วยกำลัง สถาปนาในพระองค์ ทรงรักษาให้ปลอดภัยจนถึงวันของพระเยซูคริสต์ พระองค์อยู่ที่ซึ่งความชื่นชมยินดี!

 

คำถาม

1.   การออกแบบและตกแต่งพระวิหารในพระคัมภีร์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อการนมัสการพระเจ้า เราสามารถนำแนวคิดนี้มาใช้ในการสร้างบรรยากาศที่สงบสุขและเป็นที่รวมใจในคริสตจักรอย่างไร เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างสมาชิกพี่น้อง?

2.   ทองคำและงานศิลปะในพระวิหารแสดงถึงความสวยงามและความละเอียดอ่อนในงานสร้างสรรค์ เราสามารถนำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถและความความสร้างสรรค์ในคริสตจักรเพื่อสนับสนุนการเติบโตและความสุขร่วมกันอย่างไร?

 

 

เสาหานสองต้นที่มุขหน้าของพระวิหารของโซโลมอน ที่มีชื่อว่า "ยาคีน" และ "โบอาส" มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งและสอนบทเรียนสำคัญหลายประการ:

ความหมายของชื่อ:

  • ยาคีน (Jachin): มาจากภาษาฮีบรู หมายถึง "พระองค์จะทรงสถาปนา" หรือ "พระองค์จะทรงทำให้มั่นคง" (He will establish).
  • โบอาส (Boaz): มาจากภาษาฮีบรู หมายถึง "ในพระองค์คือกำลัง" หรือ "ในพระองค์มีกำลัง" (In Him is strength).

เมื่อนำชื่อทั้งสองมารวมกัน จะมีความหมายว่า "พระเจ้าจะทรงสถาปนาด้วยกำลัง" หรือ "พระเจ้าจะทรงทำให้มั่นคงด้วยพละกำลังของพระองค์"

ความสำคัญและสิ่งที่สอนเรา:

1.   การทรงสถาปนาและพละกำลังของพระเจ้า: เสาทั้งสองต้นนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักในการค้ำยันพระวิหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดตั้งอยู่หน้าทางเข้า เป็นการประกาศว่าพระวิหารและการนมัสการพระเจ้านั้นได้รับการสถาปนาและค้ำจุนโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์เอง ไม่ใช่ด้วยกำลังของมนุษย์ หรือโครงสร้างทางกายภาพที่มองเห็นได้

2.   ความมั่นคงของพันธสัญญาและอาณาจักรของพระเจ้า: เสายาคีนและโบอาสเป็นเครื่องเตือนใจถึงพันธสัญญาที่พระเจ้ามีกับประชากรของพระองค์ และความมั่นคงของอาณาจักรของพระองค์ (ซึ่งสะท้อนผ่านพระวิหาร) พระเจ้าจะทรงสถาปนาและค้ำจุนสิ่งของพระองค์ให้คงอยู่ตลอดไป แม้ว่าพระวิหารในภายหลังจะถูกทำลายไป แต่ความหมายของเสาทั้งสองนี้ยังคงยืนยงในอาณาจักรฝ่ายวิญญาณของพระเจ้า

3.   ความสำคัญของการพึ่งพาพระเจ้า: การที่เสาทั้งสองต้นนี้ตั้งอยู่ที่ทางเข้าพระวิหาร ผู้ที่จะเข้ามานมัสการจะต้องผ่านเสาทั้งสองนี้ เป็นการสื่อว่าผู้ที่เข้ามาในพระนิเวศของพระเจ้าจะต้องเข้ามาด้วยความเข้าใจและพึ่งพาในพระกำลังของพระองค์ เพื่อจะได้รับการสถาปนาและเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณ

4.   ความงามและความสง่างามในการนมัสการ: เสาทั้งสองต้นถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่ ประดับด้วยลวดลายและผลทับทิม แสดงถึงความสำคัญของการถวายสิ่งที่ดีที่สุดแด่พระเจ้าในการนมัสการและปรนนิบัติพระองค์

เสาหานยาคีนและโบอาสเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังของความมั่นคง ฤทธิ์อำนาจ และการทรงสถาปนาของพระเจ้า ซึ่งเป็นรากฐานของการนมัสการและชีวิตฝ่ายวิญญาณของผู้เชื่อ