เรื่องย่อ
ในพระธรรม 1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 8 และ 2 พงศาวดาร บทที่ 5 เล่าเหตุการณ์ที่พระวิหารซาโลมอนเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้พระเจ้าเสด็จเข้ามาประทับด้วยความรื่นรมย์ พระเจ้าทรงโปรดปรานการอธิษฐานและการสรรเสริญของประชาชนที่มารวมกันในพระวิหาร โดยซาโลมอนอธิษฐานขออภัยโทษและขอให้พระเจ้ายอมรับคำอธิษฐานของประชาชนเป็นพิเศษ พร้อมกับการนำกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อถวายเครื่องบูชาและสรรเสริญพระเจ้า นับเป็นช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ความเชื่อใจในพระเจ้า และความสุขในความสมบูรณ์ของสถานที่นมัสการ เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและความรุ่งเรืองด้านจิตวิญญาณของอิสราเอลในยุคนั้น
เมื่อวานนี้ ซาโลมอนได้เสร็จสิ้นการสร้างพระวิหารและตอนนี้ถึงเวลาที่จะจัดเตรียมสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เขาและชาวเลวีได้ย้ายหีบพันธสัญญาและของสำคัญอื่น ๆ จากพลับพลามายังวิหารใหม่ โดยเขาก็ระมัดระวังจัดการย้ายอย่างถูกต้องตามกฎของพระเจ้า เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์ ในขณะนั้น ขณะที่ชาวอิสราเอลกำลังนำหีบเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ก็เกิดเหตุการณ์ที่พระเจ้ามาแสดงพระสิริและการประทับของพระองค์อย่างเต็มที่ จนพวกเขาต่างล้มลงกลายเป็นแน่นอนว่าพระเจ้าทรงอยู่ด้วยความเมตตาและความยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกัน ซาโลมอนก็อธิษฐานสรรเสริญพระเจ้าและขอพรเพื่อประชาชน เขาเผชิญหน้ากับความจริงว่าพระเจ้าทรงอยู่ในทุกที่และไม่มีสถานที่ใดที่จะจำกัดพระองค์ได้ พระองค์ทรงทำงานอยู่ไม่ว่าจะในบ้านหรืออยู่นอกบ้าน และพระองค์ยังทรงใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงเรื่องบาปและความดีของมนุษย์ พระองค์ทรงอยากให้คนอิสราเอลและชาวต่างชาติรู้จักพระนามของพระองค์และยำเกรงพระองค์
สุดท้าย ซาโลมอนได้อธิษฐานขอให้พระเจ้าอยู่กับพวกเขาเสมอ และให้ความใกล้ชิดของพระองค์เปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้คน ให้พวกเขาจะมุ่งหน้าไปหาพระเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์อย่างซื่อสัตย์ หลังจากนั้น พวกเขาก็ถวายเครื่องบูชาอย่างมากมายจนเต็มแท่น และเฉลิมฉลองกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ด้วยความดีและพระสิริมงคลที่พระเจ้าประทานให้แก่ดาวิดและชนชาติอิสราเอล ทำให้พวกเขากลับบ้านด้วยความยินดีและใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขแห่งความดีของพระเจ้า
ข้อคิด: 1 พงศ์กษัตริย์ 8; 2 พงศาวดาร 5
ในช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงเติมเต็มสัญญาอย่างงดงามนี้ เราได้เห็นการเตือนล่วงหน้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงใน 1 พงศ์กษัตริย์ 8:27 ซาโลมอนถามว่า “แต่พระเจ้าจะประทับอยู่บนแผ่นดินโลกจริงหรือ?” เขาไม่รู้เลยว่าพระองค์กำลังเสด็จมา พระองค์คือผู้ที่กำลังรักษาคนตาบอด ให้อาหารคนหิวโหย ปล่อยคนถูกจองจำ และปลุกคนที่ตายให้ฟื้นขึ้น ถ้าคุณคิดว่าคุณรู้จักความสุขแล้ว ลองรออีกนิด เพราะความสุขนั้นกำลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า พระองค์คือความปีติอย่างแท้จริงที่เราแสวงหา!
คำถาม
1. การอธิษฐานและอธิษฐานร่วมกันในพระวิหารตามพระคัมภีร์แสดงถึงความสำคัญของการสื่อสารและการทำงานร่วมกันในกลุ่มคนในครอบครัว ในยุคปัจจุบัน เราจะสามารถสร้างพื้นที่สำหรับการพูดคุยและอธิษฐานร่วมกันในคริสตจักรได้อย่างไรเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจซึ่งกันและกัน?
2. การถวายเครื่องบูชาและการสรรเสริญพระเจ้าที่เกิดขึ้นในพระคัมภีร์สะท้อนถึงความเคารพและความศรัทธาในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเรา ในการดำเนินชีวิตครอบครัวในปัจจุบัน เราจะสามารถปลูกฝังความเคารพและความศรัทธาให้สมาชิกในบ้านอย่างไร เพื่อเสริมสร้างความกลมเกลียว และความสุขร่วมกัน?
1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 8 เป็นบทที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งบรรยายถึงพิธีอุทิศถวายพระวิหารที่โซโลมอนได้สร้างขึ้น เป็นช่วงเวลาแห่งความชื่นชมยินดีและการสำแดงพระสิริของพระเจ้า มีข้อคิดและบทเรียนหลายประการที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากบทนี้:
1. การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าและการเติมเต็มพระสัญญา
- พระสิริของพระเจ้าเติมเต็มพระวิหาร: เมื่อหีบพันธสัญญาถูกนำเข้ามาในพระวิหาร เมฆแห่งพระสิริของพระยาห์เวห์ก็เติมเต็มพระวิหาร จนพวกปุโรหิตยืนปฏิบัติงานไม่ได้ (1 พงศ์กษัตริย์ 8:10-11) สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าพระเจ้าทรงยอมรับพระวิหารที่สร้างขึ้น และพระองค์ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ นี่แสดงให้เห็นถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้าในการเติมเต็มพระสัญญาที่ทรงประทานไว้
- การอวยพรและความคุ้มครอง: การทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าเป็นแหล่งแห่งพระพร การคุ้มครอง และการนำทางสำหรับชนชาติอิสราเอล
2. บทบาทของพระวิหารและวัตถุประสงค์ในการนมัสการ
- สถานที่นมัสการและการอธิษฐาน: โซโลมอนกล่าวว่าพระวิหารเป็นสถานที่ที่ประชากรของพระเจ้าจะมาอธิษฐานและแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ (1 พงศ์กษัตริย์ 8:27-30) แม้ว่าพระเจ้าจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะจำกัดอยู่ในอาคาร แต่พระองค์ก็ทรงเลือกที่จะสถิตในพระวิหารเพื่อพบกับประชากรของพระองค์ นี่สอนให้เราเข้าใจว่าการนมัสการและการอธิษฐานเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า
- การสารภาพบาปและการกลับใจ: คำอธิษฐานของโซโลมอนครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ ที่ประชากรของพระเจ้าอาจเผชิญ รวมถึงการทำบาปและการกลับใจ (1 พงศ์กษัตริย์ 8:31-53) พระวิหารจึงเป็นสถานที่สำหรับการสารภาพบาป การขอการอภัย และการเริ่มต้นใหม่กับพระเจ้า นี่เป็นสิ่งเตือนใจถึงพระเมตตาของพระเจ้าที่พร้อมจะอภัยแก่ผู้ที่กลับใจ
3. คำอธิษฐานของโซโลมอน (1 พงศ์กษัตริย์ 8:22-53)
- ครอบคลุมและรอบด้าน: คำอธิษฐานของโซโลมอนเป็นแบบอย่างของคำอธิษฐานที่ครอบคลุมทุกด้าน ไม่เพียงแต่เพื่อตัวเขาเองเท่านั้น แต่ยังเพื่อประชากรของอิสราเอลในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง ภัยสงคราม โรคระบาด หรือแม้แต่เมื่อพวกเขาถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในต่างแดน นี่สอนให้เราอธิษฐานเผื่อผู้อื่นและอธิษฐานเพื่อทุกสถานการณ์ในชีวิต
- เน้นย้ำพันธสัญญาและพระคุณ: โซโลมอนอธิษฐานโดยยึดมั่นในพระสัญญาและพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงมีกับดาวิด (1 พงศ์กษัตริย์ 8:23-26) แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในพระคุณและพระสัตย์ซื่อของพระเจ้า นี่เป็นแบบอย่างให้เราวางใจในพระสัญญาของพระเจ้าเมื่ออธิษฐาน
- การยอมรับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า: โซโลมอนกล่าวว่า "แม้ฟ้าสวรรค์และสวรรค์แห่งฟ้าสวรรค์ก็รองรับพระองค์ไม่ได้ แล้วพระนิเวศที่ข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นนี้จะรองรับพระองค์ได้อย่างไร!" (1 พงศ์กษัตริย์ 8:27) นี่เป็นการแสดงออกถึงความถ่อมใจและการยอมรับว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งใดที่มนุษย์จะสร้างขึ้นได้
4. การเชื่อฟังและรักษากฎบัญญัติ
- การเตือนถึงการเชื่อฟัง: โซโลมอนทูลขอให้ประชากรของพระเจ้าเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้รับพระพรและดำรงอยู่ในแผ่นดินที่พระเจ้าประทานให้ (1 พงศ์กษัตริย์ 8:58) นี่เน้นย้ำว่าการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับพระองค์และการได้รับพระพร
5. การสรรเสริญและการขอบคุณพระเจ้า
- การถวายเครื่องบูชาและการฉลอง: พิธีอุทิศถวายจบลงด้วยการถวายเครื่องบูชาจำนวนมากและการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ (1 พงศ์กษัตริย์ 8:62-66) แสดงให้เห็นถึงความชื่นชมยินดีและความสำนึกในพระคุณของพระเจ้าที่ทรงทำให้การก่อสร้างพระวิหารสำเร็จลุล่วงไปได้ นี่เป็นเครื่องเตือนใจให้เราสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าในทุกสิ่ง
โดยรวมแล้ว 1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 8 เป็นบทที่แสดงถึงพระสิริของพระเจ้า การทรงสถิตอยู่ของพระองค์ และความสำคัญของการนมัสการ การอธิษฐาน และการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์