เรื่องย่อ

กษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์เริ่มต้นรัชกาลด้วยการทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า แต่ไม่เหมือนดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษ พระองค์ทรงลงโทษผู้ที่สังหารพระราชบิดา แต่ไม่ได้ลงโทษบุตรชายของพวกเขาตามบทบัญญัติของโมเสส อามาซิยาห์ทรงเอาชนะเอโดมได้ในสงคราม แต่ทรงนำรูปเคารพของชาวเอโดมมาบูชา พระเจ้าจึงส่งผู้เผยพระวจนะมาเตือนพระองค์ แต่พระองค์ไม่ฟัง ต่อมา อามาซิยาห์ท้าทายโยอาช กษัตริย์แห่งอิสราเอล ให้ทำสงคราม แต่ถูกโยอาชเอาชนะ และเยรูซาเล็มถูกปล้น ข้าราชการของพระองค์สมคบกันต่อต้านพระองค์ และพระองค์ถูกสังหารที่เมืองลาคีช ในขณะเดียวกัน เยโฮอาช กษัตริย์แห่งอิสราเอล ทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเจ้า แต่พระองค์ก็ทรงเอาชนะอารัมได้สามครั้งตามคำทำนายของเอลีชา เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างสุดใจ การที่ต้องรับผลของการไม่เชื่อฟัง และความจริงที่ว่าชัยชนะทางโลกไม่ได้หมายความถึงความชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า

กษัตริย์โยอาชแห่งยูดาห์ทรงถูกปลงพระชนม์โดยข้าราชบริพารของพระองค์ และอามาซิยาห์ผู้เป็นพระราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อมา อามาซิยาห์ทรงเริ่มต้นรัชสมัยด้วยการลงโทษผู้ลอบปลงพระชนม์พระบิดา แม้ว่าตามธรรมเนียมแล้วจะมีการสังหารครอบครัวของผู้กระทำผิดเพื่อป้องกันการคุกคามต่อราชบัลลังก์ แต่อามาซิยาห์ทรงเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าที่ไม่ให้ลงโทษบุตรจากการกระทำของบิดา แม้ว่าพระเจ้าจะทรงสามารถมอบความยุติธรรมแบบส่งต่อรุ่นได้ แต่พระองค์ทรงเป็นผู้ตัดสินแห่งความยุติธรรมอย่างแท้จริง เพราะทรงรู้จักจิตใจของมนุษย์ ต่างจากเรา

แม้ว่าในตอนแรกอามาซิยาห์จะเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่การกระทำของพระองค์ก็ไม่ได้แสดงถึงความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างเต็มที่ พระองค์ทรงปล่อยปละละเลยเรื่องปูชนียสถานบนที่สูง และในระหว่างสงครามกับชาวเอโดม พระองค์ทรงจ้างทหารจากอิสราเอลด้วยเงินจำนวนมาก ทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย เมื่อทรงเชื่อฟังคำตักเตือนและส่งทหารเหล่านั้นกลับไป พวกเขาจึงตอบโต้ด้วยการบุกปล้นเมืองต่างๆ ของยูดาห์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าการเชื่อฟังอาจมีราคาแพง แต่การไม่เชื่อฟังนั้นมีราคาแพงกว่า เพราะการขาดความไว้วางใจในพระเจ้าทำให้อามาซิยาห์ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากตั้งแต่แรก

ชัยชนะเหนือเอโดมทำให้อามาซิยาห์ทรงหยิ่งผยอง พระองค์ทรงเริ่มบูชารูปเคารพของชนชาติที่พ่ายแพ้ และขู่ฆ่าผู้เผยพระวจนะที่มาตักเตือนพระองค์ ยิ่งไปกว่านั้น อามาซิยาห์ทรงท้าทายกษัตริย์แห่งอิสราเอลให้ทำสงคราม ซึ่งนำไปสู่ความพ่ายแพ้และการถูกจับเป็นเชลยของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะทรงหลบหนีมาได้ แต่ก็ทรงถูกสังหารในที่สุด ในขณะเดียวกัน ทางตอนเหนือของอิสราเอล เยโรโบอัมที่ 2 ทรงเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้าย แต่พระเจ้าทรงใช้พระองค์ในการฟื้นฟูดินแดนและอำนาจของอิสราเอล ซึ่งเป็นไปตามคำพยากรณ์ของโยนาห์ เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่กษัตริย์ที่ชั่วร้ายก็ยังสามารถทำสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ได้

ข้อคิด: 2 พงศ์กษัตริย์ 14; 2 พงศาวดาร 25

เมื่อคนของพระเจ้าตำหนิอามาซิยาห์ที่จ้างทหารจากภายนอกยูดาห์ เขาพูดว่า “พระเจ้าทรงมีฤทธิ์ที่จะช่วยหรือเหวี่ยงลง” (25:8) ทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า พระองค์ไม่สามารถให้สิ่งหนึ่งโดยปราศจากอีกสิ่งหนึ่งได้ แผนการของพระองค์สำหรับยูดาห์ที่จะชนะก็เป็นแผนการของพระองค์สำหรับเอโดมที่จะแพ้เช่นกัน และพระองค์ทรงพลิกสถานการณ์หลังจากนั้นไม่นาน เมื่ออามาซิยาห์นมัสการพระเท็จเทียมแล้วก่อสงครามกับอิสราเอล สองคนพยายามเตือนอามาซิยาห์ แต่ “อามาซิยาห์ไม่เชื่อฟัง เพราะเป็นมาจากพระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงมอบพวกเขาไว้ในมือศัตรูของพวกเขา เพราะพวกเขาได้แสวงหาพระของเอโดม” (25:20) พระเจ้าทรงปิดหูของอามาซิยาห์เป็นการลงโทษ เพื่อเขาจะได้เริ่มและแพ้สงคราม หลายคนชอบคิดว่าพระเจ้าทรงเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด แต่พระคัมภีร์วาดภาพที่แตกต่างออกไป ขอให้เรามุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างพระองค์ พระองค์ทรงมีชัยชนะเสมอ และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

คำถาม

1.   อามาซิยาห์เชื่อฟังพระเจ้าในการไม่ลงโทษบุตรชายของผู้ที่สังหารพระราชบิดา (2 พงศ์กษัตริย์ 14:6) การเชื่อฟังพระเจ้าในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มีความสำคัญอย่างไร และเราจะระลึกถึงพระบัญญัติของพระองค์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

2.   อามาซิยาห์นำรูปเคารพของชาวเอโดมมาบูชา (2 พงศาวดาร 25:14) การประนีประนอมกับสิ่งที่ไม่เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าส่งผลเสียอย่างไร และเราจะระวังไม่ให้สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเราได้อย่างไร?

2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 14 บันทึกเรื่องราวการปกครองของกษัตริย์สององค์คือ อามาซิยาห์ แห่งยูดาห์ และ เยโรโบอัมที่ 2 แห่งอิสราเอล เราสามารถถอดบทเรียนสำคัญหลายประการจากชีวิตของกษัตริย์ทั้งสองนี้

อามาซิยาห์เริ่มต้นการเป็นกษัตริย์ด้วยความตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า แต่มีข้อบกพร่องที่น่าพิจารณา:

• การเชื่อฟังที่ไม่สมบูรณ์: แม้ว่าอามาซิยาห์จะทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ข้อพระคัมภีร์ระบุว่า "แต่ไม่เหมือนดาวิดบรรพบุรุษของเขา" (2 พงศ์กษัตริย์ 14:3) สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการเชื่อฟังของเขาไม่ได้มาจากใจจริงทั้งหมด หรือไม่ได้ดำเนินตามแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบของดาวิดอย่างแท้จริง
• การประนีประนอมกับความบาป: อามาซิยาห์ไม่ได้กำจัดสถานบูชาบนที่สูงออกไป (2 พงศ์กษัตริย์ 14:4) การละเลยที่จะกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง แสดงให้เห็นถึงการประนีประนอมกับรูปเคารพ ซึ่งเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์กับพระเจ้า
• ความเย่อหยิ่งและการไม่ยำเกรงพระเจ้า: เมื่ออามาซิยาห์ได้รับชัยชนะเหนือเอโดม เขากลับนำรูปเคารพของเอโดมมาบูชา (2 พงศ์กษัตริย์ 14:7, 14:14) และท้าทายเยโรโบอัมแห่งอิสราเอลด้วยความหยิ่งผยองโดยไม่ปรึกษาพระเจ้า (2 พงศ์กษัตริย์ 14:8-12) ซึ่งนำไปสู่ความพ่ายแพ้ต่ออิสราเอลในที่สุด
• ผลของการไม่เชื่อฟัง: ความเย่อหยิ่งและการหันเหจากพระเจ้าของอามาซิยาห์นำไปสู่ความพ่ายแพ้ การถูกปล้น และสุดท้ายก็ถูกสมคบคิดปลงพระชนม์ (2 พงศ์กษัตริย์ 14:13-20)

เยโรโบอัมที่ 2 ปกครองอิสราเอลเป็นเวลายาวนานและนำความมั่งคั่งมาสู่อาณาจักร:

• ความสำเร็จทางโลก แต่ความล้มเหลวทางจิตวิญญาณ: เยโรโบอัมสามารถขยายอาณาเขตของอิสราเอลได้อย่างกว้างขวางและนำความเจริญรุ่งเรืองกลับมา (2 พงศ์กษัตริย์ 14:25-28) แต่พระคัมภีร์ระบุว่า "พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ พระองค์ไม่ได้หันเหจากบาปของเยโรโบอัมบุตรของเนบัท ผู้ซึ่งทำให้คนอิสราเอลทำบาป" (2 พงศ์กษัตริย์ 14:24)
• พระคุณของพระเจ้าแม้ในความไม่ซื่อสัตย์ของมนุษย์: แม้ว่าเยโรโบอัมจะไม่ได้หันเหจากบาปของการตั้งรูปเคารพลูกวัวทองคำ แต่พระเจ้าก็ยังทรงอนุญาตให้เขามีชัยชนะและฟื้นฟูอาณาจักรได้ นี่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าที่ทรงสงสารอิสราเอลในสภาพที่ขมขื่น (2 พงศ์กษัตริย์ 14:26-27) พระองค์ไม่ต้องการให้ชื่อของอิสราเอลถูกลบไปจากโลก

ข้อคิดสำคัญโดยรวม

• ความสำคัญของหัวใจที่ถูกต้อง: การเชื่อฟังที่แท้จริงต้องมาจากหัวใจที่บริสุทธิ์และยำเกรงพระเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่การทำตามกฎเกณฑ์ภายนอกเท่านั้น
• อันตรายของความเย่อหยิ่งและการประนีประนอม: ความสำเร็จทางโลกไม่ได้รับประกันความชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า ความเย่อหยิ่งและการประนีประนอมกับความบาปจะนำไปสู่ความหายนะเสมอ
• พระเมตตาคุณของพระเจ้า: แม้ว่ามนุษย์จะไม่ซื่อสัตย์ แต่พระเจ้าก็ยังคงสำแดงพระเมตตาคุณและความอดทน พระองค์ทรงห่วงใยประชากรของพระองค์ แม้ในขณะที่พวกเขากำลังทำบาป
• ความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงใช้ใครก็ได้: พระเจ้าสามารถใช้กษัตริย์ที่ไม่ดีในการบรรลุแผนการของพระองค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูอาณาจักรหรือการลงโทษ

โดยรวมแล้ว บทที่ 14 เตือนเราถึงความสำคัญของการดำเนินชีวิตที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟังพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอก แต่จากภายในใจ และให้เราเห็นถึงพระคุณของพระเจ้าที่ยังคงดำรงอยู่เสมอแม้ในความอ่อนแอและความบาปของมนุษย์