เรื่องย่อ

ใน 2 พงศ์กษัตริย์ 18, 2 พงศาวดาร 29-31 และ สดุดี 48 เล่าเรื่องราวของกษัตริย์อาชาและพระราชพิธีฟื้นฟูนมัสการพระเจ้าในเยรูซาเล็ม หลังจากความเสื่อมโทรมและการละทิ้งพระเจ้า พระองค์ทรงนำให้ประชาชนกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์และความเชื่อมั่นในพระเจ้า ด้วยการบูชาพระเจ้าและเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ในขณะเดียวกันสดุดี 48 เน้นความงามและความมหัศจรรย์ของเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองที่พระเจ้าทรงเลือก เป็นศูนย์กลางของความรุ่งเรืองและความหวัง เรื่องราวนี้เป็นบทเรียนว่าความศรัทธาและการยึดมั่นในพระเจ้า จะนำความสุข ความสงบ และความรุ่งเรืองมายังบ้านเมืองและชีวิตคนธรรมดาได้ถ้าหันหลังกลับมาหาพระองค์อย่างจริงใจ

ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้อ่านพระคัมภีร์ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 200 ในปีนี้! ผมในฐานะศิษยาภิบาลคริสตจักรไทยมิชชั่นขอชื่นชมในความมุ่งมั่นของทุกท่านที่ได้สร้างวินัยในการอ่านพระคัมภีร์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางครั้งการอ่านจะไม่เข้าใจหรือไม่แน่ใจว่าพระเจ้ากำลังสอนอะไรแก่เราจากเรื่องราวเหล่านั้น ผมขอหนุนใจให้ทุกท่านตั้งมั่นต่อไป เพราะพระเจ้าจะทรงอวยพรผู้ที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์อย่างแน่นอนครับ

ในวันนี้กษัตริย์เฮเซคียาห์ พระราชโอรสของกษัตริย์อาหัสผู้ทรงเลวร้าย ทรงเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ดีที่สุดของยูดาห์ ทรงดำเนินการปฏิรูปศาสนาครั้งใหญ่ บูรณะพระวิหาร ฟื้นฟูระบบเครื่องบูชา และฟื้นฟูเทศกาลปัสกาที่ถูกละเลยมานาน นอกจากนี้ เฮเซคียาห์ยังทรงเชิญชวนประชากรอิสราเอลให้เฉลิมฉลองเทศกาลปัสกากับชาวยูดาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยกษัตริย์ซาโลมอนที่ทั้งสองอาณาจักรเฉลิมฉลองร่วมกัน

ในการเฉลิมฉลองนี้ พวกเขาได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและเริ่มกลับใจ ซึ่งเป็นผลมาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า: "พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือยูดาห์ด้วย เพื่อให้พวกเขามีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่จะทำตามพระบัญชาของกษัตริย์และเจ้านายตามพระวจนะของพระยาห์เวห์" (2 พงศาวดาร 30:12) เหมือนกับในฟิลิปปี 2:13 พระเจ้าทรงทำการในพวกเขา "ให้มีใจปรารถนาและกระทำตามชอบพระทัยของพระองค์" การนมัสการที่แท้จริงกระตุ้นให้เฮเซคียาห์รื้อปูชนียสถานสูงและทำลายงูทองสัมฤทธิ์ที่โมเสสเคยใช้ เพราะผู้คนเริ่มกราบไหว้บูชามัน ประชาชนจากทั้งสองอาณาจักรได้ร่วมมือกันในโครงการรื้อถอนนี้ และพวกเขายังได้มอบให้อย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่งานของพระยาห์เวห์

ต่อมา พวกอัสซีเรียโจมตีแคว้นยูดาห์และเรียกร้องเงินทอง เฮเซคียาห์ทรงมอบของมีค่าทั้งหมดจากพระวิหารให้พวกเขา ผู้นำอัสซีเรียเข้าใจผิดว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นใคร และประหลาดใจที่เฮเซคียาห์ทรงวางใจในพระองค์ พวกเขายังกล่าวกับประชาชนโดยตรง โดยบอกพวกเขาว่าอย่าไว้วางใจในพระยาห์เวห์และเสนอความมั่งคั่งหากพวกเขาติดตามอัสซีเรียแทน แต่ประชาชนไม่ตอบสนอง การปฏิรูปของเฮเซคียาห์และการตอบสนองของผู้คนแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสอนวิถีทางของพระเจ้าแก่คนทุกรุ่น ดังที่สดุดี 48:13–14 กล่าวว่า "จงบอกคนรุ่นหลังว่าพระองค์คือพระเจ้า พระเจ้าของเราตลอดกาลเป็นนิตย์"

ข้อคิด: 2 พงศ์กษัตริย์ 18; 2 พงศาวดาร 29-31; สดุดี 48

แม้ว่าประชากรของเฮเซคียาห์จะมีมลทินตามพิธีกรรม และเทศกาลปัสกาจะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์แบบ เฮเซคียาห์ก็ทรงเชื่อมั่นในพระเมตตาของพระเจ้า ดังนั้นพระองค์จึงทรงสัญญาแก่ประชากรว่า "เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพระกรุณาและทรงพระเมตตา และจะไม่หันพระพักตร์ไปจากท่าน ถ้าท่านหันกลับมาหาพระองค์" (2 พงศาวดาร 30:9) จากนั้นพระองค์ทรงอธิษฐานขอพระเจ้าให้ทรงยกโทษให้ผู้ที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เรื่องความสะอาดอย่างครบถ้วน (ข้อ 18–19) พระยาห์เวห์ทรงสดับคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์และทรงรักษาประชากรให้หาย (ข้อ 20) โดยทรงเน้นที่จิตใจของพวกเขามากกว่าการปฏิบัติที่สมบูรณ์แบบ พระเจ้าทรงเต็มพระทัยที่จะให้อภัยการปฏิบัติที่ไม่สมบูรณ์แบบที่ทำด้วยใจที่สำนึกผิด ก่อให้เกิดความยินดีเป็นอย่างยิ่งในกรุงเยรูซาเล็ม (ข้อ 26) เพราะในที่สุดพวกเขาก็กำลังแสวงหาพระเจ้า และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความยินดีอยู่!

คำถาม

1.   จากเรื่องราวใน 2 พงศ์กษัตริย์ 18 และ 2 พงศาวดาร 29-31 ที่เน้นความสำคัญของการกลับใจและการสถาปนาการนมัสการอย่างแท้จริง เราจะสามารถนำบทเรียนเหล่านี้มาใช้ในชีวิตฝ่ายวิญญาณในยุคปัจจุบันอย่างไร เพื่อให้ชีวิตคริสเตียนเติบโตในความศรัทธาและความใกล้ชิดกับพระเจ้า?

2.   สดุดี 48 เน้นความงดงามและความมั่นคงของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของการสถาปนาชุมชนและชีวิตฝ่ายวิญญาณ ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เราควรนำหลักธรรมจากบทนี้มาปรับใช้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณและความสงบในจิตใจอย่างไร?

2 พงศาวดาร บทที่ 30 บันทึกเหตุการณ์สำคัญที่ กษัตริย์เฮเซคียาห์ ทรงรื้อฟื้นการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งถูกละเลยมานานหลายศตวรรษ การฟื้นฟูนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในยูดาห์ (อาณาจักรทางใต้) แต่ยังรวมถึงการเชื้อเชิญชนเผ่าต่างๆ ในอิสราเอล (อาณาจักรทางเหนือที่ล้มลงแล้ว) ให้มาร่วมด้วย บทนี้เต็มไปด้วยข้อคิดที่ทรงคุณค่าเกี่ยวกับการกลับใจ การนมัสการ และพระเมตตาของพระเจ้า

1. ความกล้าหาญของผู้นำในการนำการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณ

กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงแสดงให้เห็นถึง ความกล้าหาญและหัวใจที่มุ่งมั่น ในการนำการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณครั้งใหญ่ แม้ว่าอาณาจักรอิสราเอลเหนือจะตกอยู่ในสภาพที่แตกสลายและผู้คนห่างไกลจากพระเจ้า แต่พระองค์ก็ทรงส่งจดหมายเชิญไปทั่วดินแดน โดยไม่เกรงกลัวต่อการเยาะเย้ยหรือการปฏิเสธ (2 พงศาวดาร 30:6-10)

• ข้อคิด: ผู้นำที่แท้จริงคือผู้ที่กล้าหาญที่จะนำผู้คนกลับมาหาพระเจ้า แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค การต่อต้าน หรือการเย้ยหยันจากคนรอบข้าง การฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณมักเริ่มต้นด้วยหัวใจที่กระตือรือร้นและไม่ย่อท้อของผู้นำ

2. การกลับใจและความถ่อมใจนำไปสู่พระเมตตาของพระเจ้า

แม้จะมีหลายคนเยาะเย้ยและปฏิเสธคำเชิญ แต่ก็มีบางส่วนจากเผ่าอาเชอร์ มานาสเสห์ และเศบูลุน ที่ ถ่อมใจและมายังกรุงเยรูซาเล็ม (2 พงศาวดาร 30:11) การถ่อมใจและการกลับใจนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับพระเมตตาของพระเจ้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่บริสุทธิ์ตามธรรมบัญญัติ แต่เฮเซคียาห์ก็อธิษฐานเผื่อพวกเขา และพระเจ้าทรง "ฟังคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์และทรงรักษาประชาชนให้หายจากโรค" (2 พงศาวดาร 30:18-20)

• ข้อคิด: สิ่งที่สำคัญที่สุดในสายพระเนตรของพระเจ้าคือ หัวใจที่ถ่อมและกลับใจ ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบตามพิธีกรรมหรือธรรมบัญญัติ เมื่อเรายอมรับความบกพร่องของเราและถ่อมใจลงต่อพระพักตร์พระเจ้า พระองค์จะทรงตอบสนองด้วยพระเมตตาและพระคุณของพระองค์เสมอ

3. ความยินดีอย่างยิ่งในการนมัสการพระเจ้า

การเฉลิมฉลองปัสกานี้เต็มไปด้วยความยินดีอย่างยิ่ง ผู้คนกินปัสกาอย่างรื่นเริง และแม้แต่ตัดสินใจเฉลิมฉลองต่ออีกเจ็ดวัน (2 พงศาวดาร 30:21-23) พวกเขาได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและถวายเครื่องบูชาอย่างเต็มที่ ทั้งปุโรหิตและคนเลวีก็รับใช้ด้วยความกระตือรือร้นที่ไม่เคยมีมาก่อน (2 พงศาวดาร 30:21-27)

• ข้อคิด: การนมัสการพระเจ้าที่แท้จริงนำมาซึ่ง ความยินดีและสันติสุขที่สมบูรณ์ เมื่อเรากลับมาหาพระเจ้าด้วยใจจริง การนมัสการของเราจะไม่ใช่เพียงพิธีกรรม แต่เป็นการแสดงออกถึงความรักและความปลาบปลื้มใจอย่างลึกซึ้ง การสามัคคีธรรมในการนมัสการพระเจ้ายังนำมาซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและกำลังใจ

4. พลังของการอธิษฐานเผื่อ

กษัตริย์เฮเซคียาห์ไม่เพียงนำการฟื้นฟู แต่ยังเป็น ผู้ที่อธิษฐานเผื่อประชาชน ที่ไม่บริสุทธิ์ในการเข้าร่วมเทศกาลปัสกา (2 พงศาวดาร 30:18-19) การอธิษฐานของพระองค์ได้รับการตอบจากพระเจ้า แสดงให้เห็นถึงพลังของการอธิษฐานวิงวอนเผื่อผู้อื่น

• ข้อคิด: เราควรใช้สิทธิพิเศษในการอธิษฐานเผื่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก หรือผู้ที่ยังไม่ได้กลับมาหาพระเจ้า การอธิษฐานเผื่อสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์และนำพระเมตตาของพระเจ้ามาสู่ชีวิตของผู้คนได้

2 พงศาวดาร บทที่ 30 เป็นเรื่องราวของการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเน้นย้ำถึง ความสำคัญของผู้นำที่กล้าหาญ หัวใจที่ถ่อมและกลับใจ ความยินดีในการนมัสการ และพลังของการอธิษฐานเผื่อ เป็นข้อเตือนใจว่าไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน พระเจ้าก็ยังคงพร้อมที่จะรับผู้ที่กลับมาหาพระองค์ด้วยใจจริงเสมอ