เรื่องย่อ
เศคาริยาห์ 10-14 พุ่งตรงไปยังอนาคตที่เต็มไปด้วยสงคราม ความทุกข์ยาก และความหวังในการไถ่กู้ พระเจ้าจะทรงเยี่ยมเยียนฝูงแกะของพระองค์ ทรงนำพวกเขากลับคืนสู่ดินแดนของตน และทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู แต่ก่อนหน้านั้น จะเกิดการปฏิเสธผู้เลี้ยงที่ดี การกระจัดกระจาย และการทดสอบที่เจ็บปวด ท้ายที่สุด พระเจ้าจะทรงแทรกแซงอย่างเด็ดขาด ทำลายศัตรูของพระองค์ และสถาปนาอาณาจักรแห่งสันติสุขและความชอบธรรมที่กรุงเยรูซาเล็ม จะเป็นที่นมัสการของประชาชาติทั้งหลาย สรุปคือ เศคาริยาห์ 10-14 เตือนใจเราถึงความซับซ้อนของแผนการของพระเจ้า ซึ่งรวมถึงการพิพากษา การชำระให้บริสุทธิ์ และความหวังที่ไม่สิ้นสุด
เพราะความล้มเหลวของผู้นำของพวกเขาในการนำทางด้วยความชอบธรรม ประชากรของยูดาห์จึงหันไปพึ่งพาแหล่งที่มาที่ชั่วร้ายเพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งรวมถึงนักทำนายเท็จและการบูชาพระเท็จ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะดูแลประชากรของพระองค์ฟื้นฟูพวกเขาจากความกระจัดกระจายและทำให้พวกเขามีความเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับประชากรของพระองค์ เศคาริยาห์จึงทรงได้รับมอบหมายให้เลี้ยงฝูงแกะที่ถูกกำหนดให้ถูกฆ่าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแกะที่เปราะบางและถูกแสวงหาผลประโยชน์โดยคนเลี้ยงแกะที่ชั่วร้าย
เศคาริยาห์เริ่มแรกสงสารแกะ จึงไล่คนเลี้ยงแกะที่ชั่วร้ายออกไป ท่านนำทางพวกมันด้วยไม้เท้าสองอัน ซึ่งท่านตั้งชื่อว่า พระคุณและความสามัคคี—หรือ ความเมตตาและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน—ซึ่งแสดงให้เห็นไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ของท่านกับแกะแต่ละตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ที่แกะมีในฐานะฝูงอีกด้วย แต่ท่านหมดความอดทนกับพวกมันเพราะพวกมันเกลียดท่าน ท่านหักไม้เท้าของท่านเป็นสองท่อนและลาออกจากงาน ท่านได้รับการจ่ายเงินสามสิบเหรียญ แต่พระเจ้าตรัสให้มอบมันแก่คนที่ทำหม้อดินสำหรับพระวิหาร
คำพยากรณ์ต่อไปเกี่ยวกับวันแห่งพระยาห์เวห์เผยให้เห็นความขัดแย้งในอนาคตที่ประชาชาติจะโจมตีเยรูซาเล็ม แต่พระเจ้าจะทรงเข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องยูดาห์ พระเจ้าจะทรงเทพระวิญญาณแห่งพระคุณและความเมตตาลงมาเหนือประชากรของพระองค์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและตระหนักถึงความรอดของพระองค์ ความเป็นจริงนี้ได้รับการเน้นย้ำในพระธรรมยอห์นซึ่งระบุว่าข้อความในเศคาริยาห์เป็นการพยากรณ์ถึงการตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนซึ่งผู้คนจะไว้ทุกข์
ข้อคิด: เศคาริยาห์ 10-14
เศคาริยาห์กลายเป็นผู้เลี้ยงแกะของฝูงแกะที่ถูกกำหนดไว้สำหรับการสังหารเหตุการณ์ที่ชี้เราไปที่พระเยซูในหลายวิธี เงินสามสิบเหรียญที่เป็นการจ่ายเงินแก่เศคาริยาห์นั้นสะท้อนถึงเงินที่ยูดาส อิสคาริโอท ได้รับสำหรับการทรยศพระเยซู ด้วยเงินทั้งสองกองสุดท้ายที่ได้มอบให้ช่างปั้นหม้อในพระวิหาร การกระทำนี้เลียนแบบความทุกข์ของยูดาสที่โยนเงินคืนเข้าไปในพระวิหารซึ่งนำไปสู่การซื้อทุ่งช่างปั้นหม้อเป็นสุสาน ในที่สุด พระเยซูทรงเป็น "ลูกแกะที่ถูกกำหนดไว้สำหรับการสังหาร" ตามที่ทรงกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นเพื่อพระบุตรจะทรงเป็นทั้งคนเลี้ยงแกะที่ดีที่ทรงถูกปฏิเสธ และทรงเป็นเครื่องบูชาในนามของประชากรของพระองค์ โดยทรงเน้นย้ำถึงการทรงจัดเตรียมที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าสำหรับลูกๆ ของพระองค์และความสุขที่พบได้ในพระองค์
คำถาม
1. เศคาริยาห์ 10-14 เน้นเรื่องการดูแล การเสียสละ และความหวังในการไถ่กู้ เราจะนำแนวคิดเหล่านี้ไปใช้ในการดูแลผู้อื่นได้อย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ถูกทอดทิ้งหรือด้อยโอกาส และเราจะรักษาความหวังในอนาคตที่ดีกว่าไว้ได้อย่างไร แม้ในยามที่เผชิญกับความยากลำบาก?
2. เศคาริยาห์ 14 พรรณนาถึงวันที่พระเจ้าจะทรงปกครองเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น แม้ว่าเราอาจจะไม่คาดหวังถึงการแทรกแซงจากพระเจ้าโดยตรงเช่นนั้น แต่เราจะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่อาจเกิดขึ้นในโลกได้อย่างไร และเราจะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อสะท้อนถึงคุณค่าของอาณาจักรแห่งสวรรค์ที่มาถึง?
เศคาริยาห์ 14 เป็นบทสุดท้ายของหนังสือเศคาริยาห์ในพระคัมภีร์เดิม ซึ่งเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่และคำพยากรณ์เกี่ยวกับวันสุดท้าย บทนี้กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การต่อสู้ของประชาชาติทั้งหลายกับกรุงเยรูซาเล็ม การเสด็จกลับมาของพระเจ้า และการสถาปนาอาณาจักรของพระองค์บนโลกนี้
จากบทนี้ เราสามารถได้ข้อคิดที่สำคัญหลายประการ:
1. ความหวังในความยุติธรรมของพระเจ้า
บทนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังที่สุด เมื่อศัตรูเข้ายึดครองกรุงเยรูซาเล็มและพลเมืองต้องทนทุกข์ พระเจ้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งประชาชนของพระองค์ พระองค์จะเสด็จมาเพื่อต่อสู้กับศัตรูและสถาปนาความยุติธรรมของพระองค์ นี่เป็นข้อคิดที่ให้ความหวังว่า ไม่ว่าความชั่วร้ายจะยิ่งใหญ่เพียงใด พระเจ้าจะทรงมีชัยในที่สุด
2. การเสด็จกลับมาของพระเจ้าและผลกระทบต่อโลก
คำพยากรณ์ในบทนี้บรรยายถึงเหตุการณ์การเสด็จกลับมาของพระเจ้าอย่างยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม โดยพระองค์จะทรงยืนอยู่บนภูเขามะกอกเทศซึ่งจะแยกออกเป็นสองส่วน นี่เป็นภาพที่แสดงถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ นอกจากนี้ บทนี้ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น “น้ำเป็นขึ้น” และ “ไม่มีกลางวัน” แต่ “จะมีแต่แสง” ซึ่งเป็นการบอกเป็นนัยถึงการเริ่มต้นของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และสงบสุข
3. การปกครองของพระเจ้าจะครอบคลุมทั่วโลก
เศคาริยาห์ 14:9 กล่าวว่า “พระยาห์เวห์จะทรงเป็นกษัตริย์เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น ในวันนั้นจะมีพระยาห์เวห์องค์เดียว และพระนามของพระองค์จะเป็นหนึ่งเดียว” นี่เป็นข้อคิดที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่ง บทนี้สอนว่าในที่สุดแล้ว ทุกชนชาติจะยอมรับการปกครองของพระเจ้าและจะมาร่วมนมัสการพระองค์ที่กรุงเยรูซาเล็มทุกปี สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่แค่สำหรับชนชาติใดชนชาติหนึ่ง แต่สำหรับคนทั้งโลก
บทที่ 14 ของเศคาริยาห์เป็นเหมือนภาพยนตร์ที่สรุปเรื่องราวใหญ่ของพระคัมภีร์ คือการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วร้าย การทนทุกข์ของมนุษย์ และชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า บทนี้ให้ความหวังแก่ผู้ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากว่าในที่สุดแล้ว พระเจ้าจะทรงนำมาซึ่งความยุติธรรม ความสงบสุข และการปกครองของพระองค์จะครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง