Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ยอห์น 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ยอห์น 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ยอห์น 4

เรื่องย่อ

ยอห์น บทที่ 2-4 เปิดเผยภาพลักษณ์ที่น่าสนใจของพระเยซูในฐานะผู้เปลี่ยนโลก ผู้ให้การเปิดเผย และผู้เติมเต็มความต้องการของมนุษย์ พระเยซูทรงแสดงการอัศจรรย์ครั้งแรกของพระองค์ที่งานแต่งงานในเมืองคานา โดยเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น แสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระองค์เหนือธรรมชาติและนำมาซึ่งการเริ่มต้นการปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์ การชำระพระวิหารในกรุงเยรูซาเลมเผยให้เห็นความกระตือรือร้นของพระองค์เพื่อความบริสุทธิ์ในพระนิเวศของพระบิดา และท้าทายผู้นำทางศาสนา การสนทนาของพระเยซูกับนิโคเดมัสเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องเกิดใหม่ทางวิญญาณเพื่อเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า และการสนทนาของพระองค์กับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำเผยให้เห็นถึงพระองค์ในฐานะบ่อน้ำแห่งชีวิตที่ดับกระหายทางจิตวิญญาณของผู้ที่แสวงหาพระองค์ เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพระเยซูในฐานะบุคคลที่ท้าทายความคาดหวังของโลก เสนอการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ และตอบสนองความต้องการที่ลึกที่สุดของมนุษย์ด้วยความรักและพระคุณของพระองค์

 

พระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์ครั้งแรกในที่สาธารณะตามคำขอของพระมารดา โดยทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น พระนางทรงทราบถึงสิ่งที่พระองค์ทรงสามารถทำได้ คำตอบของพระองค์อาจดูรุนแรงในภาษาอังกฤษ แต่คำว่า "หญิงเอ๋ย" เป็นวิธีที่ใช้เรียกผู้หญิงโดยทั่วไปในสมัยของพระองค์ และคำพูดของพระองค์มีความหมายว่า "เจ้ากับเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้" พระเยซูทรงไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และต่อหน้าผู้ใดที่พระองค์จะทรงแสดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ความกังวลหลักของพระองค์คือการรักษากำหนดเวลาของพระบิดาในการเปิดเผยพระองค์เองในฐานะพระเมสสิยาห์ อย่างไรก็ตาม พระนางมารีย์ยังคงยืนกราน และพระเยซูทรงช่วยกอบกู้สถานการณ์

ยอห์นข้ามไปยังสัปดาห์สุดท้ายในชีวิตของพระเยซู เมื่อพระองค์เสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อเทศกาลปัสกา การขายสัตว์นอกพระวิหารเป็นเรื่องปกติเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การขายสัตว์ แต่อยู่ที่ (ก) พวกเขากำลังขายสัตว์เหล่านั้นภายในบริเวณพระวิหาร ซึ่งเป็นการรบกวนความสงบ และ (ข) พวกเขากำลังโก่งราคาผู้มาเยือน พระเยซูทรงทำแส้และทรงขับไล่พวกเขาออกจากพระวิหาร เพราะพระองค์ทรงรักสถานที่ที่พระเจ้าเสด็จมาสถิตกับมนุษย์ และทรงเกลียดสิ่งที่เกิดขึ้นกับสถานที่นั้น พระองค์ทรงเปรียบเทียบพระกายของพระองค์กับสถานที่นั้น ซึ่งทั้งสองเป็นวิถีทางที่พระเจ้าเสด็จมาสถิตกับมนุษย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนที่พระเยซูจะเสด็จไปที่กางเขน

นิโคเดมัสมาหาพระเยซูในเวลากลางคืน พระเยซูตรัสว่าการเปลี่ยนแปลงในใจของเขาคือพระวิญญาณของพระเจ้าที่พัดเหมือนลมเหนือชีวิตของเขา พระวิญญาณคือผู้ที่ให้กำเนิดใหม่และชีวิตใหม่ ผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์ก็ถูกตัดสินแล้ว ยอห์นย้ำว่า “ผู้ที่เชื่อในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์ ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรก็จะไม่เห็นชีวิต แต่พระพิโรธของพระเจ้าคงอยู่บนเขา” ข่าวประเสริฐสำหรับผู้ที่เชื่อในพระคริสต์ก็คือ เพราะพระคริสต์เราจะไม่มีวันเห็นพระพิโรธของพระเจ้า เพราะพระคริสต์ทรงรับพระพิโรธทั้งหมดของพระบิดาสำหรับความผิดบาปของเราบนไม้กางเขน พระเยซูเสด็จผ่านแคว้นสะมาเรีย พูดคุยกับหญิงชาวสะมาเรีย และตรัสเกี่ยวกับตัวเธอทุกอย่าง พระองค์ทรงเสนอพระคุณ ความเมตตา และความรักที่เธอไม่เคยได้รับ และตรัสว่าพระองค์คือพระเมสสิยาห์ เธอจึงกลายเป็นมิชชันนารี และพระเยซูทรงประทับอยู่ต่ออีกสองวันเพื่อเทศนาข่าวประเสริฐแก่ผู้ถูกขับไล่แห่งสะมาเรีย

 

ข้อคิด: ยอห์น 2-4

การอัศจรรย์ครั้งแรกของโมเสสคือการเปลี่ยนน้ำให้เป็นเลือด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ในขณะที่การอัศจรรย์ครั้งแรกของพระเยซูคือการเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต โมเสสเป็นผู้ให้กฎหมาย แต่พระเยซูทรงเป็นผู้ประทานชีวิตและทำให้กฎหมายสำเร็จ นี่คือการประกาศของพระเจ้าว่าผู้ยิ่งใหญ่กว่าโมเสสได้มาถึงแล้ว ความสมบูรณ์ได้มาถึงแล้ว และชีวิตได้มาถึงแล้ว ซึ่งพระองค์ทรงสถิตอยู่ที่ซึ่งมีความชื่นชมยินดี

 

คำถาม

1.   พระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นที่งานแต่งงานในเมืองคานา แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ในการนำความชื่นชมยินดีและความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชีวิตประจำวันของเรา เราจะแสวงหาการทรงสถิตอยู่ของพระเยซูในชีวิตของเราได้อย่างไร และเราจะอนุญาตให้พระองค์เปลี่ยนความธรรมดาให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาได้อย่างไร?

2.   การสนทนาของพระเยซูกับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำเน้นถึงความรักและพระคุณที่ไม่มีข้อจำกัดของพระองค์ ซึ่งเกินกว่าขอบเขตทางสังคมและวัฒนธรรม เราจะเลียนแบบความรักที่ไม่มีข้อจำกัดของพระเยซูได้อย่างไรในปฏิสัมพันธ์ของเรากับผู้ที่แตกต่างจากเรา และเราจะแบ่งปัน "น้ำแห่งชีวิต" กับผู้ที่กระหายทางฝ่ายวิญญาณได้อย่างไร?

 

 

ยอห์น บทที่ 2 ประกอบด้วยเหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์ คือ การอัศจรรย์เปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นที่งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา และการชำระพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ข้อคิดที่สำคัญจากบทนี้ ได้แก่

1. การไว้วางใจและการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์

เหตุการณ์เปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นเป็นเครื่องหมายอัศจรรย์แรกของพระเยซู และเป็นบทเรียนที่ชัดเจนเรื่อง ความเชื่อและการเชื่อฟัง

  • ไว้วางใจในพระเยซู (Trust): เมื่อเหล้าองุ่นหมด มารดาของพระเยซู (มารีย์) ได้นำปัญหามาทูลต่อพระองค์ ซึ่งแสดงถึงการไว้วางใจในพระบุตรของเธอ
  • เชื่อฟังอย่างไม่สงสัย (Obedience): มารีย์บอกคนใช้ว่า "จงทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด" (ยอห์น 2:5) คนใช้แสดงการเชื่อฟังอย่างเต็มที่ โดยตักน้ำใส่โอ่งตามคำสั่ง แม้จะดูไม่สมเหตุสมผลก็ตาม
  • ผลลัพธ์ที่อัศจรรย์ (Transformation): การเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์นำไปสู่การอัศจรรย์ เมื่อน้ำธรรมดาถูกเปลี่ยนให้เป็นเหล้าองุ่นชั้นดีในปริมาณที่มากมาย นี่สอนเราว่า เมื่อเรามอบปัญหาของเราให้พระเยซูและเชื่อฟังพระองค์อย่างเต็มที่ พระองค์จะทรงสามารถเปลี่ยนสิ่งธรรมดาในชีวิตของเราให้กลายเป็นสิ่งพิเศษได้อย่างอัศจรรย์

2. การเปิดเผยพระสิริและเวลาของพระเจ้า

  • การสำแดงพระสิริ: การอัศจรรย์นี้เป็น "หมายสำคัญแรก" ที่พระเยซูทรงกระทำเพื่อ "สำแดงพระสิริของพระองค์" และทำให้เหล่าสาวกวางใจในพระองค์มากขึ้น
  • เวลาของพระเจ้า: เมื่อมารีย์ทูลขอความช่วยเหลือ พระเยซูตรัสว่า "เวลาของเรายังมาไม่ถึง" (ยอห์น 2:4) สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า การทำงานของพระเยซูเป็นไปตาม แผนงานและกำหนดเวลาที่เหมาะสมที่สุดของพระบิดา ไม่ใช่ตามความต้องการหรือความเร่งรีบของมนุษย์ เราต้องเรียนรู้ที่จะอดทนและไว้วางใจในเวลาของพระเจ้า

3. ความบริสุทธิ์ของพระวิหารและพระกายของพระคริสต์

เหตุการณ์การชำระพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม (การขับไล่คนขายวัวและนกพิราบออกจากพระวิหาร) สอนเราเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และความสำคัญของสถานที่นมัสการ และเป็นสัญลักษณ์ถึงบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

  • ความศักดิ์สิทธิ์: พระเยซูทรงปกป้องความบริสุทธิ์ของ "พระนิเวศของพระบิดา" โดยการขับไล่กิจกรรมทางการค้าที่ไม่เหมาะสมออกไป สิ่งนี้ย้ำเตือนให้เราให้เกียรติและรักษาความบริสุทธิ์ของสถานที่ที่เรานมัสการพระเจ้า
  • พระวิหารใหม่: เมื่อพวกยิวท้าทายอำนาจของพระองค์ พระเยซูตรัสว่า "ทำลายพระวิหารนี้ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน" (ยอห์น 2:19) ซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคือการสถาปนา "พระวิหารใหม่" ที่เป็นทางเข้าสู่พระเจ้าอย่างแท้จริง พระองค์คือผู้ชำระและผู้จัดเตรียมการเข้าถึงพระเจ้า

4. ธรรมชาติของความเชื่อที่แท้จริง

ในตอนท้ายของบท (ยอห์น 2:23-25) กล่าวถึงคนจำนวนมากที่ "เชื่อ" ในพระนามพระเยซูเพราะเห็นการอัศจรรย์ แต่พระเยซูไม่ทรงมอบพระองค์เองให้พวกเขา เพราะพระองค์ "ทรงทราบว่ามีอะไรอยู่ในใจมนุษย์"

  • รู้จักหัวใจมนุษย์: พระเยซูทรงรู้จักความเชื่อที่แท้จริงกับความเชื่อผิวเผิน พระองค์ทรงทราบว่าการเชื่อในปาฏิหาริย์อาจเป็นเพียงการตื่นเต้นชั่วคราว ไม่ใช่การมอบชีวิตให้พระองค์อย่างแท้จริง
  • ความเชื่อที่มั่นคง: ข้อคิดคือ ความเชื่อที่แท้จริงไม่ควรขึ้นอยู่กับเพียงแค่การได้เห็นสิ่งอัศจรรย์ แต่ต้องเป็นการไว้วางใจในพระคำและพระองค์ผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า

ข้อคิดเหล่านี้กระตุ้นให้เราพึ่งพาพระเยซูในทุกรายละเอียดของชีวิต เชื่อฟังพระองค์แม้ในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ และมุ่งเน้นไปที่ความเชื่อที่บริสุทธิ์และมั่นคงในพระองค์