Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ลูกา 19

เรื่องย่อ

ในลูกา บทที่ 19 พระเยซูทรงพบกับศักเคียส คนเก็บภาษีผู้มั่งคั่ง ซึ่งอยากจะเห็นพระองค์ ศักเคียสปีนขึ้นไปบนต้นมะเดื่อเพื่อจะได้เห็นพระเยซู พระเยซูทรงเห็นเขาและตรัสว่าจะไปพักที่บ้านของเขา ศักเคียสสำนึกผิดและประกาศว่าจะให้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งแก่คนยากจน และจะชดใช้คืนสี่เท่าแก่ผู้ที่เขาเคยโกง พระเยซูทรงประกาศว่าความรอดได้มาถึงบ้านนี้แล้ว เพราะศักเคียสเป็นบุตรของอับราฮัมด้วย พระองค์ทรงเล่าอุปมาเรื่องเงินตะลันต์ เพื่อสอนว่าผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสิ่งใดจะต้องนำผลกำไรมาคืนให้เจ้านายเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา พระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเลม และประชาชนต้อนรับพระองค์ด้วยความชื่นชม แต่พระองค์ทรงกันแสงเมื่อทอดพระเนตรเห็นกรุงเยรูซาเลม เพราะทรงทราบถึงการทำลายล้างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ในเรื่องราวของลูกา ขณะที่พระเยซูกำลังเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็มและผ่านเมืองเยริโค ศักเคียส ผู้เก็บภาษี อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับพระองค์ ศักเคียสไม่ได้ต้องการสิ่งที่เป็นรูปธรรมจากพระเยซู แต่เป็นคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจในเมือง สิ่งที่พิเศษคือแรงจูงใจของเขาในการเห็นพระเยซู ความอยากรู้อยากเห็นของเขาผลักดันให้เขายินดีที่จะปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อมองเห็นพระองค์

พระเยซูทรงสังเกตศักเคียสและทรงเชื้อเชิญพระองค์เองไปรับประทานอาหารเย็น ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับชาวเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์การที่พระองค์ทรงคบหากับคนบาป พระเยซูทรงเน้นย้ำว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อแสวงหาและช่วยผู้ที่หลงหาย ศักเคียสตอบสนองต่อการเผชิญหน้ากับพระเยซูด้วยความปรารถนาที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของเขา ความแตกต่างระหว่างศักเคียสกับผู้ครอบครองที่ร่ำรวยคือ ศักเคียสสำนึกถึงความยากจนทางจิตวิญญาณของตนเอง ในขณะที่ผู้ครอบครองที่ร่ำรวยติดอยู่กับความมั่งคั่งทางวัตถุของเขา

เมื่อพระเยซูทรงเข้าใกล้กรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงส่งสาวกสองคนไปนำลูกลามา พระองค์ทรงกระทำตามคำพยากรณ์ในเศคาริยาห์ 9:9 ซึ่งทำนายว่ากษัตริย์จะเสด็จเข้ามาในเมืองอย่างสุภาพอ่อนโยนบนลูกลา เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม ฝูงชนโห่ร้องว่า “ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามของพระเจ้าทรงพระเจริญ” ซึ่งเป็นไปตามคำพยากรณ์ที่พระเยซูตรัสไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าอาจเป็นการร้องขอให้รอดพ้นจากการกดขี่ของโรมันมากกว่าการรอดพ้นจากบาป แต่การสรรเสริญก็ดังกระหึ่มไปทั่ว

 

ข้อคิด: ลูกา 19

"บุตรมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและช่วยผู้ที่หลงหายให้รอด" เป็นข้อความที่ทรงพลัง แม้ว่าความหมายของมันอาจดูเหมือนไม่ชัดเจนในทันที เราทุกคนก็อยู่ในเรื่องราวนี้ เมื่อเราหลงหาย พระเยซูทรงเป็นผู้กระทำ โดยเสด็จมา แสวงหา และช่วยเราให้รอดพ้นจากความสิ้นหวังของเรา การช่วยเหลือของเราขึ้นอยู่กับการกระทำของพระองค์ และเป็นเพราะพระองค์ที่เราสามารถพบความชื่นชมยินดีที่แท้จริง เพราะถ้าไม่มีการแทรกแซงจากพระองค์ เราอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราหลงหายและไม่สามารถที่จะช่วยตนเองได้

 

คำถาม

1.   การที่พระเยซูทรงเข้าไปในบ้านของศักเคียสทำให้เขากลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต เราจะเปิดใจและต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิตของเราได้อย่างไร แม้ว่าเราจะรู้สึกว่าเราไม่คู่ควรหรือมีอดีตที่ไม่ดี? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงการเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า และการยอมรับพระคุณของพระองค์)

2.   อุปมาเรื่องเงินตะลันต์สอนว่าเราต้องใช้ของประทานและความสามารถที่เราได้รับมาเพื่อพระสิริของพระเจ้า เราจะค้นพบและพัฒนาของประทานของเราได้อย่างไร และเราจะใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อรับใช้ผู้อื่นและขยายพระอาณาจักรของพระเจ้าได้อย่างไร? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงการใช้ศักยภาพของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการรับใช้ด้วยความสัตย์ซื่อ)

 

 

ลูกา บทที่ 19 มีข้อคิดที่สำคัญและหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้ดังนี้ครับ:

1. การเปลี่ยนแปลงชีวิตของศักเคียส (ลูกา 19:1-10)

นี่คือเรื่องราวของศักเคียส นายด่านภาษีผู้มั่งคั่งแต่ถูกสังคมรังเกียจ ซึ่งพยายามอย่างมากที่จะมองเห็นพระเยซูคริสต์

  • ความพยายามในการแสวงหา: ศักเคียสไม่ยอมให้อุปสรรค (ตัวเล็ก, คนเยอะ) มาขวางกั้นความปรารถนาที่จะพบพระเยซู เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แสดงให้เห็นถึงการแสวงหาพระเจ้าด้วยความตั้งใจจริง
  • พระเมตตาและการเสาะหาของผู้ช่วยให้รอด: พระเยซูทรงเห็นศักเคียส ทรงเรียกชื่อเขา และทรงประกาศว่าจะไปพักที่บ้านของเขา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า พระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาเพื่อแสวงหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปให้รอด (ลูกา 19:10) ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นที่รังเกียจของสังคมเพียงใด
  • การกลับใจอย่างแท้จริง: การพบกับพระเยซูนำไปสู่การกลับใจและการกระทำที่เป็นรูปธรรมทันที ศักเคียสประกาศว่าจะคืนเงินที่โกงมาถึงสี่เท่าและมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้คนยากจน แสดงให้เห็นว่าการกลับใจที่แท้จริงต้องแสดงออกผ่านการกระทำที่สอดคล้องกับหลักการของพระเจ้า

2. คำอุปมาเรื่องเงินสิบมินา (ลูกา 19:11-27)

คำอุปมานี้สอนเรื่องความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากร (ไม่ว่าจะเป็นเวลา ความสามารถ หรือทรัพย์สิน) ที่พระเจ้ามอบให้

  • ความรับผิดชอบในการรับใช้: ทาสแต่ละคนได้รับเงินมินาหนึ่งก้อนเท่ากันเพื่อนำไปค้าขายในขณะที่เจ้านายไม่อยู่ ข้อคิดคือ ผู้เชื่อทุกคนได้รับมอบหมายให้ใช้ของประทานหรือทรัพยากรที่พระเจ้าประทานให้เพื่อรับใช้และถวายเกียรติแด่พระองค์
  • ผลของการปรนนิบัติ: ทาสที่นำเงินไปใช้ให้เกิดผลก็ได้รับคำชมเชยและบำเหน็จ (อำนาจปกครองเมือง) ส่วนทาสที่ซ่อนเงินไว้เพราะความกลัวก็ถูกตำหนิและถูกริบสิ่งที่เขามี แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ซื่อสัตย์ในการใช้สิ่งที่ได้รับมอบหมายจะได้รับบำเหน็จ และผู้ที่ไม่ใช้ก็จะถูกริบสิ่งที่เขามีไป (หลักการของการเพิ่มพูน)
  • การรอคอยและการกลับมา: คำอุปมานี้เตือนใจว่าพระเจ้าจะเสด็จกลับมา (เหมือนเจ้านายกลับมาเพื่อจัดการบัญชี) และจะมีการพิพากษา

3. การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้มีชัยและการชำระพระวิหาร (ลูกา 19:28-48)

  • การเป็นกษัตริย์ผู้ถ่อมใจ: พระเยซูทรงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้มีชัย โดยทรงขี่ลูกลาตามคำพยากรณ์ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มาด้วยความถ่อมใจและสันติ ไม่ใช่กษัตริย์ทางโลกที่มาด้วยกำลังทหาร
  • การใส่ใจต่อคนหลงหาย: การที่พระองค์ทรงกันแสงเพื่อกรุงเยรูซาเล็ม (19:41-44) แสดงถึงความรักและความปรารถนาอันลึกซึ้งที่ประชากรของพระองค์จะรู้จักทางแห่งสันติสุข ก่อนที่หายนะจะมาถึง
  • ความบริสุทธิ์ของพระนิเวศ: การที่พระเยซูทรงขับไล่ผู้ซื้อขายออกจากพระวิหาร (19:45-46) เน้นย้ำว่าพระนิเวศของพระเจ้าจะต้องเป็น "นิเวศแห่งการอธิษฐาน" ไม่ใช่ที่สำหรับผลประโยชน์ส่วนตัวหรือการแสวงหาผลกำไร

หัวใจของ ลูกา บทที่ 19 คือการประกาศจุดประสงค์ของการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์: "เพราะบุตรมนุษย์ได้มาเพื่อเสาะหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปให้รอด" (ลูกา 19:10) และเรียกให้ผู้เชื่อทุกคนมีความรับผิดชอบที่จะใช้ทุกสิ่งที่พระองค์มอบให้เพื่อรับใช้พระองค์จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมา