Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มาระโก 11

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ยอห์น 12

เรื่องย่อ

ในมาระโก บทที่ 11 และ ยอห์น บทที่ 12 เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการตรึงกางเขนของพระเยซู พระเยซูทรงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเลมอย่างสง่าผ่าเผย โดยประทับบนลูกลา และประชาชนปูเสื้อผ้าและกิ่งไม้ตามทาง โห่ร้องสรรเสริญพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงชำระพระวิหาร ขับไล่พ่อค้าและคนแลกเงินออกไป พระองค์ทรงสอนในพระวิหารและตอบคำถามของผู้คน ในยอห์น บทที่ 12 เล่าถึงการเจิมพระบาทของพระเยซูด้วยน้ำมันหอมราคาแพงโดยมารีย์น้องสาวของลาซารัส ซึ่งเป็นการแสดงความรักและการเตรียมพระศพของพระองค์สำหรับการฝัง พระเยซูทรงยืนยันการกระทำของเธอ การฟื้นคืนชีพของลาซารัสทำให้ผู้คนจำนวนมากเชื่อในพระเยซู แต่ก็ทำให้พวกปุโรหิตใหญ่และฟาริสีวางแผนที่จะประหารทั้งพระเยซูและลาซารัส

 

พระเยซูและอัครสาวกของพระองค์เสด็จไปยังชานเมืองเยรูซาเล็มเพื่อพักค้างคืน เช้าวันต่อมา ขณะที่พวกเขาเดินทางกลับเข้าไปในเมือง พวกเขาได้พบกับต้นมะเดื่อที่พระเยซูทรงสาปแช่ง เปโตรสังเกตว่าต้นไม้นั้นเหี่ยวแห้งไปถึงรากแล้ว พระเยซูทรงใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการสอนแก่เปโตร โดยเน้นถึงความสำคัญของความเชื่อ การอธิษฐาน และการให้อภัย

มารีย์ มาร์ธา และลาซารัสจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำให้พระเยซูและอัครสาวกของพระองค์ ขณะที่มาร์ธากำลังเตรียมอาหาร มารีย์ได้แสดงความจงรักภักดีอย่างลึกซึ้งโดยการชโลมพระบาทของพระเยซูด้วยน้ำมันหอมราคาแพงและเช็ดพระบาทของพระองค์ด้วยผมของเธอ การกระทำที่ถ่อมตัวนี้แสดงให้เห็นถึงความเคารพและรักใคร่ที่ยิ่งใหญ่ของเธอต่อพระเยซู ยูดาสซึ่งเป็นเหรัญญิกของกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเธอ โดยอ้างถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการกุศล แต่ความตั้งใจที่แท้จริงของเขาคือการขโมยเงิน พระเยซูทรงปกป้องมารีย์ โดยกล่าวว่าการกระทำของเธอเป็นการเตรียมตัวสำหรับงานศพของพระองค์

เมื่อข่าวลือเรื่องการประทับอยู่ของพระเยซูในเมืองแพร่กระจายออกไป ฝูงชนจำนวนมากก็มาชุมนุมกันเพื่อพบพระองค์และลาซารัส ซึ่งเป็นผู้ที่พระเยซูทรงชุบให้ฟื้นคืนพระชนม์ บรรดาผู้นำรู้สึกไม่พอใจกับการตอบสนองของผู้คน และถึงกับวางแผนที่จะสังหารลาซารัส สาวกต่างชาติสองสามคนที่ตระหนักว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ปรารถนาที่จะพบพระองค์ พระเยซูทรงกล่าวถึงความทุกข์ทรมานที่กำลังจะมาถึงของพระองค์และการเสียสละที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อความรอดของมวลมนุษยชาติ พระองค์ทรงยืนยันว่าแม้ว่าพระองค์จะทรงเศร้าโศก แต่พระองค์ทรงยอมรับแผนการของพระบิดา เพราะไม่มีหนทางอื่นใดที่จะคืนดีมวลมนุษยชาติกับพระเจ้าได้

 

ข้อคิด: มาระโก 11; ยอห์น 12

พระเยซูทรงสามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีวิต สั่งการสภาพอากาศได้ และทำให้อาหารปรากฏขึ้นได้ แต่พระองค์ทรงยอมจำนนต่อพระบิดาด้วยความถ่อมใจ พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า ไม่ใช่แค่ผู้เผยพระวจนะที่ทรงพลังหรือครูสอนศีลธรรมที่ดี พระองค์ทรงอ้างซ้ำๆ ว่าเป็นพระเจ้าเอง และพระบิดาทรงยืนยัน พระเยซูคือพระเจ้าและยังคงเชื่อฟังพระเจ้า แสดงให้เห็นถึงการยอมจำนนด้วยความถ่อมใจในระดับที่สูงกว่าที่เราสามารถทำได้ พระองค์คือที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   ประชาชนต้อนรับพระเยซูด้วยการโห่ร้องสรรเสริญและปูเสื้อผ้าตามทาง เราจะแสดงความเคารพและให้เกียรติพระเยซูในชีวิตประจำวันได้อย่างไร นอกเหนือจากการนมัสการในโบสถ์? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงการดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าในทุกด้าน)

2.   มารีย์เจิมพระบาทของพระเยซูด้วยน้ำมันหอมราคาแพง ซึ่งเป็นการแสดงความรักและการเสียสละ เราจะแสดงความรักและความขอบคุณต่อพระเยซูด้วยการเสียสละสิ่งที่มีค่าสำหรับเราได้อย่างไร? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงการให้ด้วยใจกว้าง และการจัดลำดับความสำคัญของพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด)

 

 

ยอห์น บทที่ 12 เป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วงก่อนที่พระเยซูจะเข้าสู่สัปดาห์แห่งความทุกข์ทรมาน (Passion Week) มีข้อคิดดังนี้ครับ:

1. การนมัสการและการเสียสละที่แท้จริง (ข้อ 1-8)

  • ความรักและการถวายสุดจิตใจ: เหตุการณ์ที่มารีย์เทน้ำมันหอมราคาแพงชโลมพระบาทพระเยซูและใช้ผมเช็ด เป็นแบบอย่างของการ นมัสการ และ ความรักที่ไม่มีการยับยั้ง (Extravagant devotion) พระเยซูทรงตีความว่าการกระทำนี้เป็นการเตรียมพระองค์ไว้สำหรับการฝังพระศพ
  • ความขัดแย้งเรื่องการใช้จ่าย: มีความขัดแย้งระหว่างความรักที่บริสุทธิ์ของมารีย์กับความโลภและการวิจารณ์ของยูดาส อิสคาริโอท (ที่ต้องการให้เอาเงินนั้นไปทำทาน) ประเด็นคือ การให้ความสำคัญกับการตอบสนองต่อพระเยซูเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

2. การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้มีชัยชนะ (ข้อ 12-19)

  • การสำแดงความเป็นพระมหากษัตริย์: ประชาชนโห่ร้องต้อนรับพระเยซูเหมือนกษัตริย์ โดยใช้ใบอินทผลัมและร้องว่า "โฮซันนา" (ขอพระองค์โปรดช่วยให้รอด)
  • การสำเร็จตามคำพยากรณ์: การที่พระเยซูเสด็จมาบนลูกลา เป็นการสำเร็จตามคำพยากรณ์ในพระธรรมเศคาริยาห์ (ยอห์น 12:15) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์คือพระเมสสิยาห์ที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

3. การสิ้นพระชนม์เพื่อเกิดผล (ข้อ 23-26)

  • หลักการของเมล็ดข้าวที่ต้องตาย: ข้อความที่ว่า "ถ้าเมล็ดข้าวไม่ตกลงดินและตายไป ก็จะเป็นเมล็ดเดียว แต่ถ้าตายไปก็จะงอกเกิดผลมาก" (ข้อ 24) เป็นหลักข้อคิดสำคัญที่สุดข้อหนึ่งในบทนี้ หมายถึง:
    • การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู: การสละชีวิตของพระองค์จะนำมาซึ่งความรอด (ผลมาก) แก่ผู้คนมากมาย
    • การติดตามพระองค์ (การเป็นสาวก): ผู้ที่ต้องการรับใช้และเป็นเหมือนพระองค์ ต้องเต็มใจ "เกลียดชังชีวิตของตนในโลกนี้" หรือไม่ยึดติดกับชีวิตเดิม เพื่อจะได้มีชีวิตนิรันดร์ ความหมายคือ ต้องยอมเสียสละตัวตนเดิมเพื่อรับการทรงนำของพระเจ้า

4. การถูกยกขึ้นและการดึงดูดผู้คน (ข้อ 27-33)

  • ชั่วโมงแห่งพระสิริ: พระเยซูทรงตระหนักดีว่า "ชั่วโมง" แห่งการถูกยกขึ้นบนกางเขนใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่พระองค์จะ "ได้รับพระเกียรติ" ผ่านการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์
  • การถูกยกขึ้นเพื่อดึงดูด: พระเยซูตรัสว่าเมื่อพระองค์ "ถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลก" (หมายถึงการถูกตรึงกางเขน) พระองค์จะ "ดึงดูดทุกคนเข้ามาหาพระองค์" (ข้อ 32) นี่คือแผนการของพระเจ้าในการช่วยกู้โลก

5. การแยกแยะระหว่างความเชื่อและการไม่เชื่อ (ข้อ 37-50)

  • การปฏิเสธท่ามกลางปาฏิหาริย์: แม้พระเยซูจะทรงกระทำหมายสำคัญมากมาย แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อ ซึ่งเป็นไปตามคำพยากรณ์ของอิสยาห์ (ข้อ 38)
  • ความสว่างและการพิพากษา: พระเยซูทรงประกาศว่าพระองค์เสด็จมาเป็น "ความสว่าง" สำหรับโลกนี้ (ข้อ 46) ผู้ที่เชื่อในความสว่างนั้นจะกลายเป็นบุตรของความสว่าง แต่ผู้ที่ปฏิเสธพระวจนะของพระองค์ ก็จะมีพระวจนะนั้นเองเป็นผู้พิพากษาในวันสุดท้าย (ข้อ 48)

ยอห์น บทที่ 12 เน้นย้ำถึง การทรงเป็นพระเมสสิยาห์ของพระเยซู, ความจำเป็นของการเสียสละ (ตามหลักการของเมล็ดข้าวที่ต้องตาย) เพื่อให้เกิดผลแห่งชีวิตใหม่ และ การเลือกที่ทุกคนต้องทำคือการเชื่อในความสว่างหรือการเดินอยู่ในความมืด