เรื่องย่อ
ในกิจการบทที่ 9-10 เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญสองประการที่ขับเคลื่อนพันธกิจของคริสตจักรไปสู่คนต่างชาติ บทที่ 9 เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเซาโล ผู้ซึ่งเป็นผู้ข่มเหงคริสเตียนอย่างรุนแรง เขาได้พบกับพระเยซูอย่างอัศจรรย์บนถนนสู่ดามัสกัส กลายเป็นคนตาบอดชั่วคราว ก่อนที่จะกลับมามองเห็นได้ด้วยการช่วยเหลือจากอนาเนียและได้รับบัพติศมา หลังจากนั้น เซาโล (ซึ่งต่อมาคือเปาโล) ก็เริ่มประกาศพระเยซูในฐานะพระบุตรของพระเจ้าทันที สร้างความประหลาดใจให้กับชาวยิวและชาวยูดาห์เป็นอย่างมาก ในบทที่ 10 เรื่องราวเปลี่ยนมาที่เปโตร ผู้ซึ่งได้รับนิมิตสำคัญเกี่ยวกับสัตว์ที่ไม่สะอาดบนผ้าผืนใหญ่ ซึ่งพระเจ้าทรงประกาศว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงชำระแล้วก็อย่าเรียกสิ่งนั้นว่าไม่สะอาด นิมิตนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่ร้อยหัวหน้าโครเนลิอัส ผู้เป็นคนต่างชาติที่เกรงกลัวพระเจ้า ได้รับนิมิตให้ส่งคนไปตามหาเปโตร เปโตรเชื่อฟังการทรงนำของพระเจ้า ไปยังบ้านของโครเนลิอัสและประกาศข่าวประเสริฐแก่คนต่างชาติที่นั่น ทันใดนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาเหนือทุกคนที่ฟังพระคำ รวมถึงคนต่างชาติด้วย เหตุการณ์นี้เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าพระคุณของพระเจ้ามีให้สำหรับคนทุกชาติพันธุ์ ไม่จำกัดเฉพาะชาวยิวอีกต่อไป ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการขยายอาณาจักรของพระเจ้า
เดิมทีเซาโลไล่ล่าผู้ติดตาม "ทางนั้น" (คริสตจักร) อย่างโหดเหี้ยม โดยได้รับอนุญาตจากมหาปุโรหิตให้จับกุมคริสเตียนกลับไปเยรูซาเล็มเพื่อลงโทษ ทว่าพระเจ้ามีแผนการที่แตกต่างออกไปสำหรับเขา ระหว่างทางไปดามัสกัส แสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ได้ทำให้เขาล้มลง และพระเยซูตรัสถามว่า "เซาโล เซาโลเอ๋ย ท่านข่มเหงเราทำไม" คำถามนี้เผยให้เห็นว่าพระเยซูทรงรวมพระองค์เองเข้ากับคริสตจักรอย่างลึกซึ้ง และทรงรับความเจ็บปวดที่ประชากรของพระองค์เผชิญ เซาโลซึ่งตาบอดจากเหตุการณ์นั้น ได้ถูกนำไปยังดามัสกัส
หลังจากตาบอดอยู่สามวัน พระเจ้าทรงสำแดงนิมิตแก่อานาเนีย ผู้เชื่อท้องถิ่น ให้ไปหาเซาโล แม้อานาเนียจะกังวลเพราะชื่อเสียงของเซาโลในฐานะผู้ข่มเหงคริสเตียน แต่พระเจ้าก็ทรงเปิดเผยแผนการยิ่งใหญ่ของพระองค์สำหรับเซาโล ในที่สุดอานาเนียก็ไปหาเซาโล อธิษฐานเผื่อเขา ทำให้เขากลับมามองเห็นอีกครั้ง ได้รับการเติมเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และรับบัพติศมาทันที เซาโลเริ่มประกาศว่าพระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าในธรรมศาลา ซึ่งสร้างความตกใจและความไม่พอใจแก่ชาวยิวบางกลุ่มจนพวกเขาคิดจะฆ่าเขา เหล่าสาวกในดามัสกัสจึงช่วยเซาโลหลบหนีกลับไปยังเยรูซาเล็ม ที่นั่นเหล่าอัครทูตยังคงสงสัยในตัวเขา มีเพียงบารนาบัสเท่านั้นที่รับรองและพาเขาไปหาเหล่าอัครทูต เซาโลเริ่มประกาศที่เยรูซาเล็ม แต่เมื่อถูกคุกคามอีกครั้ง เหล่าอัครทูตจึงส่งเขากลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองทาร์ซัสเพื่อความปลอดภัย
แม้จะเผชิญกับการข่มเหงและการคุกคาม คริสตจักรก็ยังคงเติบโตด้วยสันติสุขและพลังอำนาจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่สถิตอยู่ภายในผู้เชื่อ ซึ่งช่วยให้พวกเขาจดจำและดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระเยซู ไม่เหมือนบรรพบุรุษของพวกเขา เปโตรได้รับใช้ด้วยฤทธิ์อำนาจ ทำการอัศจรรย์รักษาผู้ป่วยและแม้กระทั่งชุบชีวิต อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญคือเมื่อเปโตรได้รับนิมิตเกี่ยวกับสัตว์ที่ไม่สะอาดบนแผ่นผ้า และได้ยินพระสุรเสียงสั่งให้ฆ่าและกิน ซึ่งเป็นการประกาศว่าพระเจ้าทรงชำระให้สิ่งเหล่านั้นสะอาดแล้ว นิมิตนี้ขัดแย้งกับธรรมบัญญัติเก่า ทำให้เปโตรสับสน แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมเขาให้พร้อมสำหรับการพบกับร้อยหัวหน้าโครเนลิอัส คนต่างชาติที่เกรงกลัวพระเจ้า โครเนลิอัสได้รับนิมิตให้ส่งคนไปหาเปโตร เมื่อเปโตรไปถึงบ้านของโครเนลิอัสและเทศนาข่าวประเสริฐ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาเหนือคนต่างชาติทุกคนที่ฟังพระคำ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าความรอดของพระเจ้าเปิดกว้างสำหรับทุกชาติพันธุ์
ข้อคิด: กิจการ 9-10
เรื่องราวของเซาโลเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงอำนาจสูงสุดของพระเจ้าในการนำพาความรอดมาสู่ประชากรของพระองค์ แม้เซาโลจะมิได้แสวงหาพระเจ้า แต่กลับต่อต้านพระองค์อย่างแข็งขันในการข่มเหงคริสตจักร แต่พระเจ้าก็ยังทรงเข้าแทรกแซงและเปลี่ยนชีวิตเขาเพื่อให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งในแผนการไถ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ดังนั้นหากคุณกำลังอธิษฐานเผื่อเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่ยังปฏิเสธข่าวประเสริฐ จงชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าทรงมีพระดำรัสสุดท้ายและทรงสามารถพลิกผันสถานการณ์ใดๆ ได้เสมอ พระองค์ทรงเป็นที่มาแห่งความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริง
คำถาม
1. เมื่อชีวิตของคุณต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่คาดคิด หรือคุณได้รับคำเรียกให้ทำในสิ่งที่คุณไม่เคยคิดว่าจะทำมาก่อน คุณจะยอมให้สิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงทิศทางและวัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณได้อย่างไร? (พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในชีวิตของเซาโลจากผู้ข่มเหงคริสเตียนสู่ผู้ประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ และการที่อนาเนียต้องเชื่อฟังพระเจ้าแม้จะกลัวอันตราย เพื่อไปพบกับศัตรูที่กลับใจ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคุณนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และคุณจะตอบสนองต่อการทรงเรียกที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจนำไปสู่เส้นทางใหม่ที่ไม่เคยคิดฝันได้อย่างไร?)
2. คุณจะท้าทายอคติ ความคิดที่เคยยึดถือ หรือเขตความสบายส่วนตัวของคุณได้อย่างไร เมื่อคุณตระหนักว่าวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังเรียกให้คุณเปิดใจและขยายขอบเขตความเข้าใจเพื่อรวมผู้อื่น? (ไตร่ตรองจากนิมิตของเปโตรที่ท้าทายข้อห้ามเรื่องอาหาร และการที่เขาเรียนรู้ว่าข่าวประเสริฐไม่ได้จำกัดอยู่แค่ชาวยิวเท่านั้น ทำให้เกิดการเปิดรับโครเนลิอัสและครอบครัว วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่กระตุ้นให้คุณก้าวข้ามกำแพงแห่งความแตกต่าง เพื่อสร้างความสัมพันธ์และแบ่งปันสิ่งที่ดีงามกับผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยไม่ถูกจำกัดด้วยขนบธรรมเนียมหรืออคติส่วนตัว?)
กิจการบทที่ 9 เป็นเรื่องราวสำคัญเกี่ยวกับการกลับใจของเซาโล ผู้ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นอัครทูตเปาโลผู้ยิ่งใหญ่ ข้อคิดที่ได้จากบทนี้เกี่ยวข้องกับ อำนาจการเปลี่ยนแปลงชีวิตของพระเจ้า และ แผนการอันลึกลับของพระองค์
1. การเผชิญหน้ากับพระเจ้าบนถนนดามัสกัส
- อำนาจการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมาย: เซาโลเป็นผู้ข่มเหงคริสเตียนอย่างรุนแรงที่สุด แต่พระเยซูคริสต์ทรงปรากฏแก่ท่านอย่างอัศจรรย์ระหว่างทางไปเมืองดามัสกัส การพบกับพระเจ้าครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ท่านตาบอดชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนทิศทางชีวิตของท่านอย่างสิ้นเชิง
- ข้อคิด: ไม่ว่าเราจะเป็นใคร หรือเคยทำอะไรผิดพลาดมาก่อน ไม่มีใครเกินขอบเขตของความรอด หรือ อำนาจการเปลี่ยนแปลง ของพระเจ้าได้ พระองค์สามารถเลือกใช้แม้แต่ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดให้กลายเป็นผู้รับใช้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
- ความสำคัญของการเชื่อฟัง: ทันทีที่เซาโลถามว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์คือใคร" และ "พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:5-6) ท่านได้แสดงการยอมจำนนต่อพระเยซูอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับใจ
2. บทบาทของคริสตจักรและผู้เชื่อคนอื่น
- อนาเนียกับการเชื่อฟังอย่างกล้าหาญ: พระเจ้าทรงใช้ อนาเนีย ผู้เชื่อธรรมดา ๆ คนหนึ่งให้ไปหาเซาโลผู้เป็นที่หวาดกลัว เพื่อรักษาตาและให้ท่านรับบัพติศมา อนาเนียลังเลในตอนแรก แต่ก็เชื่อฟังพระเจ้าอย่างกล้าหาญ
- ข้อคิด: พระเจ้ามักใช้ผู้เชื่อที่ซื่อสัตย์ในการสานต่อแผนการของพระองค์ เราแต่ละคนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและเป็นพยานแก่ผู้ที่พระเจ้ากำลังทรงเรียก
- การยอมรับในชุมชน: หลังจากเซาโลกลับใจผู้เชื่อในกรุงเยรูซาเลมหวาดระแวง แต่บารนาบัสได้เข้ามาช่วยเหลือแนะนำเซาโลให้รู้จักกับอัครทูต ทำให้ท่านได้รับการยอมรับในคริสตจักร
- ข้อคิด: การต้อนรับและการให้โอกาสแก่ผู้ที่กลับใจใหม่เป็นสิ่งสำคัญมาก ชุมชนคริสตจักรมีบทบาทในการฟื้นฟูและเสริมสร้างผู้เชื่อ
3. แผนการยิ่งใหญ่สำหรับการรับใช้
- พระประสงค์ของพระเจ้า: พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่อนาเนียว่า เซาโลคือภาชนะที่ทรงเลือกไว้เพื่อจะนำพระนามของพระองค์ไปสู่คนต่างชาติ กษัตริย์ และชนชาติอิสราเอล (กิจการ 9:15)
- ข้อคิด: ชีวิตของผู้เชื่อทุกคนมีพระประสงค์และแผนการเฉพาะเจาะจงจากพระเจ้า การกลับใจของเซาโลไม่ใช่แค่การรอดส่วนตัวแต่เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการรับใช้ในโลกนี้
กิจการบทที่ 9 จึงเป็นหลักฐานที่ทรงพลังถึงพระคุณและอำนาจของพระเจ้าที่สามารถเปลี่ยนใจคนอย่างสิ้นเชิง และแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงมีแผนการที่ดีเลิศสำหรับชีวิตที่เราอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้