เรื่องย่อ
กิจการบทที่ 11-12 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของคริสตจักรและอุปสรรคที่ต้องเผชิญในยุคแรก บทที่ 11 เริ่มต้นด้วยการที่เปโตรรายงานและชี้แจงต่อคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มถึงการที่คนต่างชาติรับเชื่อและได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้คริสตจักรยอมรับว่าพระเจ้าได้ทรงเปิดประตูแห่งความรอดแก่คนต่างชาติด้วยเช่นกัน จากนั้น เรื่องราวย้ายไปที่เมืองอันทิโอก ซึ่งคริสตจักรเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้เชื่อทั้งชาวยิวและคนต่างชาติจำนวนมาก และที่นั่นเองที่เหล่าสาวกได้รับชื่อว่า "คริสเตียน" เป็นครั้งแรก บารนาบัสได้ไปนำเซาโล (เปาโล) มาสอนที่อันทิโอก และพวกเขาก็ร่วมกันจัดส่งความช่วยเหลือไปยังคริสตจักรในยูเดียที่ประสบภัยกันดาร ขณะที่บทที่ 12 บันทึกถึงการข่มเหงอย่างรุนแรงโดยกษัตริย์เฮโรด อากริปปาที่ 1 ซึ่งได้สั่งประหารยากอบน้องชายของยอห์น และจับกุมเปโตรด้วยความตั้งใจจะประหารชีวิต แต่เปโตรได้รับการปลดปล่อยอย่างปาฏิหาริย์จากคุกโดยทูตสวรรค์ ท่ามกลางคำอธิษฐานอย่างไม่หยุดหย่อนของคริสตจักร เหตุการณ์นี้ตามมาด้วยการสิ้นพระชนม์ของเฮโรดอย่างอนาถ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันว่าถึงแม้จะมีการข่มเหง แต่พระวจนะของพระเจ้าก็ยังคงเจริญรุ่งเรืองและแพร่หลายออกไป
เมื่อเปโตรกลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม เขาเผชิญการโต้แย้งจากกลุ่มผู้เชื่อชาวยิวบางคนเรื่องการยอมรับคนต่างชาติที่ไม่ได้เข้าสุหนัต แต่เปโตรได้อธิบายถึงนิมิตที่พระเจ้าประทานและการยืนยันผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงยอมรับคนทุกคน เหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับคริสตจักรยุคแรก ที่ตระหนักว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์คือเครื่องหมายของการเป็นประชากรของพระเจ้า ไม่ใช่การเข้าสุหนัต ซึ่งช่วยรวมผู้เชื่อจากความแตกต่างทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ในช่วงแรก คริสตจักรต้องเผชิญกับการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่พระเจ้าทรงอดทนนำพาพวกเขาให้ผ่านพ้นไปได้ ขณะที่ผู้เชื่อพยายามทำตามพระบัญชาของพระเยซูในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐ การทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นหลักฐานยืนยันว่าพระเจ้าทรงนำทางในการตัดสินใจใหม่ๆ เหล่านี้ ทำให้การประกาศข่าวประเสริฐแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองอันทิโอก ที่ซึ่งผู้เชื่อชาวยิวที่พูดภาษากรีกได้ก่อตั้งคริสตจักรที่เจริญรุ่งเรือง บารนาบัสและเซาโลมีบทบาทสำคัญในการสอนและเสริมสร้างคริสตจักรแห่งนี้
ในเวลาต่อมา กษัตริย์เฮโรดอากริปปาได้เริ่มการข่มเหงคริสเตียนอย่างรุนแรง โดยสังหารยากอบและจับกุมเปโตรเพื่อเอาใจชาวยิว อย่างไรก็ตาม เปโตรได้รับการปลดปล่อยอย่างอัศจรรย์ด้วยการช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ ทำให้เขาเล็ดลอดจากคุกที่แน่นหนาไปได้ ส่วนเฮโรดเองก็ถูกลงโทษด้วยเหตุที่รับเกียรติจากมนุษย์ราวกับเป็นพระเจ้า ทำให้เขาถึงแก่ความตายอย่างกะทันหัน แม้เผชิญการข่มเหงรุนแรง แต่คริสตจักรก็ยังคงเจริญเติบโตและทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยเซาโลและบารนาบัสพร้อมยอห์น มาระโกได้เดินทางกลับไปยังอันทิโอกเพื่อดำเนินพันธกิจต่อไป
ข้อคิด: กิจการ 11-12
จากพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า "ดังนั้นพระเจ้าก็ได้ทรงโปรดประทานการกลับใจใหม่ให้แก่คนต่างชาติด้วย เพื่อให้มีชีวิต" (กิจการ 11:18) เราเข้าใจว่าการกลับใจใหม่นั้นเป็นของประทานที่มาจากพระเจ้าโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงริเริ่มและมอบให้เรา ไม่ใช่สิ่งที่เรามอบให้พระองค์ ของประทานอันเหลือเชื่อนี้ทำให้เราได้รับดวงตาที่มองเห็น หูที่ได้ยิน และใจที่พร้อมจะรับรู้และยอมจำนนต่อความจริงของพระองค์ ซึ่งนำไปสู่ชีวิตและความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริงในพระองค์
คำถาม
1. คุณจะตอบสนองอย่างไรเมื่อวัตถุประสงค์ของคุณเรียกร้องให้คุณก้าวข้ามขอบเขตทางสังคม วัฒนธรรม หรือความเชื่อเดิมๆ เพื่อโอบรับสิ่งใหม่ๆ หรือผู้คนที่แตกต่างออกไป และจะทำอย่างไรให้คนรอบข้างเข้าใจและยอมรับการกระทำนั้น? (พิจารณาจากเรื่องราวของเปโตรที่ต้องอธิบายแก่คริสตจักรในเยรูซาเล็มถึงการที่เขาไปหาคนต่างชาติอย่างโครเนลิอัส และการที่ข่าวประเสริฐแพร่ไปสู่ชาวต่างชาติในอันทิโอค จนเกิดกลุ่มผู้เชื่อที่ถูกเรียกว่า "คริสเตียน" เป็นครั้งแรก วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณนั้นกว้างขวางเพียงพอที่จะโอบรับความหลากหลายและท้าทายกรอบความคิดเดิมๆ หรือไม่ และคุณจะสื่อสารวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นนี้ให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างไร?)
2. เมื่อคุณเผชิญกับอุปสรรคที่ดูเหมือนจะเกินกำลัง การข่มเหง หรือสถานการณ์ที่คับขันที่สุด คุณจะรักษาสติ ความหวัง และศรัทธาในวัตถุประสงค์ของคุณได้อย่างไร และคุณจะขอการสนับสนุนจากชุมชนหรือพลังที่สูงกว่าเพื่อผ่านพ้นมันไปได้อย่างไร? (ไตร่ตรองถึงการที่ยากอบต้องสิ้นชีวิตจากการข่มเหงของเฮโรด แต่เปโตรได้รับการปลดปล่อยจากคุกอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์เดชแห่งการอธิษฐานของคริสตจักร วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณมีรากฐานมั่นคงเพียงพอที่จะยืนหยัดต่อการทดลอง และคุณจะใช้แหล่งพลังงานภายนอก เช่น ชุมชนหรือความเชื่อของคุณ เพื่อช่วยให้คุณอดทนและรอคอยการแก้ไขจากเบื้องบนได้อย่างไร?)
กิจการ บทที่ 11 เป็นการเปิดเผยพระประสงค์อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการนำข่าวประเสริฐไปสู่ชนชาติอื่น ๆ และเป็นบทเรียนเกี่ยวกับการปรับมุมมองของผู้เชื่อให้สอดคล้องกับแผนการของพระองค์
1. การก้าวข้ามอคติทางเชื้อชาติ (ข้อ 1–18)
บทเรียนที่สำคัญที่สุดคือการที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เปโตรและผู้เชื่อชาวยิวว่า ความรอดของพระเจ้ามีไว้สำหรับทุกคน ไม่จำกัดอยู่แค่คนยิวเท่านั้น
- อย่าขัดขวางพระเจ้า: เปโตรถูกผู้เชื่อชาวยิวในเยรูซาเล็มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เขาเข้าไปในบ้านและร่วมรับประทานอาหารกับคนต่างชาติ (โครเนลิอัส) แต่เปโตรได้อธิบายถึงนิมิตและเหตุการณ์ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาเหนือคนต่างชาติเหล่านั้น เหมือนกับที่เคยเสด็จลงมาเหนือพวกเขา
- น้ำพระทัยอยู่เหนือธรรมเนียม: การที่ผู้เชื่อชาวยิวยอมรับว่า "ถ้าเช่นนั้น พระเจ้าก็ได้ประทานให้คนต่างชาติกลับใจเพื่อจะได้ชีวิตด้วย" แสดงให้เห็นว่า เมื่อเห็นการทำงานของพระเจ้าแล้ว พวกเขายอมละทิ้งธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดถือมานาน และยอมรับแผนการใหม่ของพระองค์
- ข้อคิด: เราต้องระวังไม่ให้ธรรมเนียมปฏิบัติหรือความเชื่อเดิมของเรากลายเป็นกำแพงขวางกั้นการทำงานของพระเจ้า หรือขัดขวางการรับคนใหม่ๆ เข้าสู่คริสตจักร
2. การประกาศข่าวประเสริฐอย่างไม่แบ่งแยก (ข้อ 19–26)
- วิกฤตนำสู่การขยายตัว: การข่มเหงที่เกิดขึ้นในเยรูซาเล็มไม่ได้ทำให้ข่าวประเสริฐหยุดชะงัก แต่กลับเป็นเหตุให้ผู้เชื่อกระจัดกระจายออกไป และได้เริ่มประกาศข่าวประเสริฐกับคนต่างชาติ (คนกรีก) ในเมืองอันทิโอกเป็นครั้งแรก ซึ่งส่งผลให้มีคนจำนวนมากกลับใจมาเชื่อในพระเยซู
- การปลูกฝังพระคำคือรากฐาน: เมื่อคริสตจักรในเยรูซาเล็มทราบข่าวจึงได้ส่งบารนาบัสไป และบารนาบัสได้ไปตามหาเซาโล (เปาโล) มาร่วมรับใช้ ทั้งสองได้สั่งสอนผู้คนในอันทิโอกตลอดหนึ่งปีเต็ม ซึ่งทำให้คริสตจักรนี้เข้มแข็งและกลายเป็นศูนย์กลางมิชชันนารีที่สำคัญในเวลาต่อมา
- กำเนิดคำว่า "คริสเตียน": ที่เมืองอันทิโอกนี้เองที่ผู้คนเริ่มเรียกผู้ที่ติดตามพระเยซูว่า "คริสเตียน" เป็นครั้งแรก คำนี้หมายถึง "ผู้ที่เป็นของพระคริสต์" หรือ "ผู้ติดตามพระคริสต์"
3. ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยการกระทำ (ข้อ 27–30)
- สามัคคีธรรมที่แท้จริง: เมื่อผู้เผยพระวจนะทำนายว่าจะเกิดการกันดารอาหารครั้งใหญ่ ผู้เชื่อที่อันทิโอก (ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ) ก็ตัดสินใจรวบรวมเงินและส่งความช่วยเหลือไปให้แก่พี่น้องผู้เชื่อที่อยู่ในแคว้นยูเดีย (ส่วนใหญ่เป็นคนยิว)
- ข้อคิด: นี่เป็นตัวอย่างของการสามัคคีธรรมและความรักที่เป็นรูปธรรม โดยแสดงออกผ่านการ ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ข้ามพรมแดนเชื้อชาติและภูมิศาสตร์
กิจการ บทที่11 สอนให้เราเปิดใจยอมรับการทำงานของพระเจ้าที่อาจขัดแย้งกับสิ่งที่เราคุ้นเคย และแสดงออกถึงความรักของพระคริสต์ด้วยการรับใช้และช่วยเหลือพี่น้องร่วมความเชื่อทุกคน