เรื่องย่อ
กิจการบทที่ 13-14 บันทึกการเริ่มต้นการเดินทางประกาศข่าวประเสริฐครั้งแรกของเปาโลและบารนาบัส ซึ่งได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และถูกส่งออกไปจากคริสตจักรในอันทิโอก พวกท่านเดินทางไปยังเกาะไซปรัสและหลายเมืองในแคว้นพิซิเดียและลิคาโอเนีย เช่น อันทิโอกแห่งพิซิเดีย อิโคนิอุม ลิสตรา และเดอร์เบ โดยเทศนาพระกิตติคุณแก่ทั้งชาวยิวและคนต่างชาติ แม้ว่าจะมีคนจำนวนมากกลับใจเชื่อ แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากชาวยิวที่ไม่ยอมรับ ซึ่งนำไปสู่การข่มเหง การคุกคาม และแม้กระทั่งการที่เปาโลถูกขว้างหินจนเกือบตายในเมืองลิสตรา เหตุการณ์สำคัญคือเมื่อเปาโลและบารนาบัสหันไปประกาศแก่คนต่างชาติอย่างชัดเจน เนื่องจากชาวยิวปฏิเสธข่าวประเสริฐอย่างต่อเนื่อง และหลังจากที่พวกเขากลับไปยังอันทิโอกแห่งซีเรีย พวกท่านก็ได้รายงานถึงการที่พระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อแก่คนต่างชาติอย่างกว้างขวาง
คริสตจักรในเมืองอันทิโอกได้ส่งบารนาบัสและเซาโลออกไปในพันธกิจแรกของพวกเขาตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การเดินทางเริ่มต้นที่เกาะไซปรัส ที่นั่นผู้ว่าราชการได้ยินข่าวและเรียกพวกท่านมาพบ แม้จะมีการขัดขวางจากผู้เผยพระวจนะเท็จ แต่เซาโลก็แสดงฤทธิ์เดชของพระเจ้าด้วยการทำให้ผู้ขัดขวางตาบอดชั่วคราว นำผู้ว่าราชการมาสู่ความเชื่อ ในเหตุการณ์สำคัญนี้ เซาโลเริ่มใช้ชื่อเปาโล ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อถึงคนต่างชาติมากขึ้น สะท้อนถึงการปรับตัวและความมุ่งมั่นของท่านในการนำข่าวประเสริฐไปสู่ผู้คนหลากหลายวัฒนธรรม
การเดินทางต่อมายังอันทิโอกอีกแห่งหนึ่งในตุรกี แม้ว่ายอห์น มาระโกจะแยกตัวกลับเยรูซาเล็ม เปาโลยังคงเทศนาอย่างกล้าหาญในธรรมศาลา โดยเน้นย้ำว่าการยกโทษบาปและความชอบธรรมมาทางพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสส ข้อความนี้ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนต่างชาติ แต่ก็เผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากชาวยิวบางกลุ่ม ด้วยเหตุนี้ เปาโลจึงประกาศว่าพระเจ้าทรงเปิดทางให้ข่าวประเสริฐไปถึงคนต่างชาติอย่างชัดเจน และคนจำนวนมากที่พระเจ้าทรงเลือกไว้สำหรับชีวิตนิรันดร์ก็ได้เชื่อและก่อให้เกิดการฟื้นฟูขึ้นในภูมิภาคนั้น
พันธกิจยังคงดำเนินต่อไปยังเมืองอิโคนียม ซึ่งมีทั้งชาวยิวและชาวกรีกจำนวนมากเชื่อ แต่การต่อต้านอย่างต่อเนื่องนำไปสู่แผนการขว้างก้อนหิน พวกเขาจึงต้องหนีไปลิสตรา ที่นั่นเปาโลรักษาชายง่อย ทำให้ชาวเมืองพยายามบูชาพวกเขาเป็นเทพเจ้า แต่ไม่นานชาวยิวจากเมืองก่อนหน้าก็เข้ามาปลุกระดมฝูงชนให้ขว้างก้อนหินใส่เปาโลจนคิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว ทว่าเปาโลฟื้นขึ้นและตัดสินใจกลับไปยังเมืองที่พวกเขากำลังเผชิญกับการข่มเหง เพื่อเสริมสร้างและแต่งตั้งผู้นำในคริสตจักรท้องถิ่น ก่อนจะกลับไปยังอันทิโอกในซีเรียเพื่อรายงานข่าวดีถึงการที่พระเจ้าทรงเปิดประตูสู่ความเชื่อสำหรับคนต่างชาติ
ข้อคิด: กิจการ 13-14
แม้ในอดีตที่พระเจ้าทรงยอมให้บรรดาประชาชาติดำเนินตามวิถีทางของตนเอง ซึ่งคำว่า "ยอมให้" ยังสื่อถึงการที่พระองค์ทรงอดทนต่อการปฏิเสธพระองค์ของพวกเขา ทว่าพระองค์ก็มิได้ทรงละเลยที่จะสำแดงพระองค์เองผ่านพระพรนานัปการที่ประทานให้ เช่น ฝนจากฟ้า ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ อาหารที่ทำให้อิ่มเอมใจ และความชื่นชมยินดีต่างๆ แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาและพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่แผ่ไปถึงทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะรู้จักหรือยอมรับพระองค์หรือไม่ก็ตาม ตอกย้ำว่าพระองค์คือแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริงและทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
คำถาม
1. เมื่อคุณเผชิญกับการต่อต้าน การปฏิเสธ หรือแม้กระทั่งการข่มเหงอย่างรุนแรงในการทำตามวัตถุประสงค์ของคุณ คุณจะรักษาสติ ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่จะดำเนินต่อไปได้อย่างไร? (พิจารณาจากเปาโลและบารนาบัสที่ยังคงประกาศข่าวประเสริฐต่อไปแม้จะถูกชาวยิวต่อต้าน ถูกขับไล่ออกจากเมือง ถูกขว้างด้วยหินจนเกือบตายในลิสตรา แต่ก็ยังกลับไปเยี่ยมเยียนและเสริมกำลังคริสตจักรที่พวกเขาตั้งขึ้นมา วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทนทานต่ออุปสรรคที่หนักหน่วง และอะไรคือแหล่งพลังที่คุณจะพึ่งพาเพื่อไม่ให้ยอมแพ้?)
2. คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าการกระทำหรือความสำเร็จของคุณยังคงสะท้อนถึงวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวคุณเอง โดยไม่ถูกล่อลวงให้แสวงหาความโดดเด่นส่วนตัว หรือรับเกียรติที่ไม่ใช่ของคุณ? (ไตร่ตรองจากเหตุการณ์ที่เมืองลิสตรา เมื่อผู้คนพยายามจะถวายเครื่องบูชาแก่เปาโลและบารนาบัสหลังจากการอัศจรรย์ แต่ทั้งสองได้รีบห้ามและชี้ให้เห็นว่าฤทธิ์อำนาจนั้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่ทำให้คุณยังคงถ่อมตนและมุ่งเน้นไปที่การยกย่องสิ่งที่สูงกว่า แทนที่จะเบี่ยงเบนไปสู่การได้รับชื่อเสียงหรือการยอมรับส่วนตน?)
กิจการบทที่ 14 บันทึกการเดินทางเผยแผ่ของเปาโลและบารนาบัสในเมืองต่าง ๆ เช่นเมืองอิโคนียูม เมืองลิสตรา และเมืองเดอร์บี ซึ่งมีข้อคิดที่สำคัญหลายประการดังนี้:
1. ความอดทนในการเผชิญกับการต่อต้านและการข่มเหง
- การยืนหยัดในพันธกิจ: เปาโลและบารนาบัสยังคงประกาศข่าวประเสริฐอย่างกล้าหาญ แม้จะต้องเผชิญกับการต่อต้าน และการคิดร้ายจากผู้ที่ไม่เชื่อในเมืองอิโคนียูม
- การหนีเมื่อจำเป็น: พวกเขาเลือกที่จะหนีไปยังเมืองอื่นเมื่อการข่มเหงทวีความรุนแรงถึงขั้นจะถูกทำร้าย แต่พวกเขาก็ ไม่ได้ละทิ้ง การรับใช้
- การทนทุกข์เพื่ออาณาจักร: ข้อคิดสำคัญที่พวกเขาสอนเหล่าสาวกคือ "เราจะต้องทนความทุกข์ยากลำบากหลายอย่างจึงจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าได้" (กจ. 14:22) สิ่งนี้เตือนใจว่า การทนทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้เชื่อต้องเผชิญในการดำเนินชีวิตคริสเตียน
2. การถ่อมใจและให้เกียรติพระเจ้า
- ปฏิเสธการนมัสการ: เมื่อเปาโลรักษาชายง่อยคนหนึ่งให้หายได้ที่เมืองลิสตรา ผู้คนต่างเข้าใจผิดและพยายามจะนมัสการพวกเขาเหมือนเป็นเทพเจ้า
- การให้เกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงสร้าง: เปาโลและบารนาบัสฉีกเสื้อผ้าเพื่อแสดงการคัดค้าน และประกาศว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าองค์เดียวที่สมควรได้รับการนมัสการคือพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์แผ่นดินโลก ทะเล และสิ่งสารพัดในโลกนี้
3. การเสริมกำลังและการจัดระเบียบในคริสตจักร
- การกลับไปเยี่ยมเยียน: หลังจากเดินทางไปถึงเมืองเดอร์บีแล้ว ทั้งสองคนได้เดินทางกลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูม และเมืองอันทิโอกเพื่อเสริมกำลัง และให้กำลังใจเหล่าสาวกใหม่ให้ตั้งมั่นคงอยู่ในความเชื่อ
- การแต่งตั้งผู้ปกครอง: พวกเขายังได้แต่งตั้งผู้ปกครอง (ผู้รับใช้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม) ในแต่ละคริสตจักรที่พวกเขาได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อดูแลและนำพาผู้เชื่อกลุ่มใหม่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการดูแลคริสตจักรและสร้างผู้นำขึ้นมา
กิจการบทที่ 14 สอนเราเกี่ยวกับการรับใช้ด้วยความสัตย์ซื่อและอดทนท่ามกลางการต่อต้าน การถ่อมใจ โดยไม่รับเกียรติที่ควรเป็นของพระเจ้า และความสำคัญของการเสริมสร้างสาวก และการจัดระเบียบในคริสตจักร