เรื่องย่อ
พระธรรมยากอบทั้งห้าบทเน้นย้ำถึงการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง โดยเริ่มต้นด้วยการกระตุ้นให้ผู้เชื่ออดทนต่อการทดลองและขอสติปัญญาจากพระเจ้า เพราะการทดลองนั้นจะเสริมสร้างความอดทนและทำให้ชีวิตสมบูรณ์ จากนั้นยากอบเตือนให้เป็นผู้ที่กระทำตามพระวจนะ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ฟังเท่านั้น พร้อมกับเน้นย้ำอย่างหนักแน่นว่าความเชื่อที่ปราศจากการกระทำนั้นเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว โดยยกตัวอย่างของอับราฮัมและราหับ บทที่สามมุ่งเน้นไปที่การควบคุมลิ้น ซึ่งเป็นอวัยวะเล็กๆ ที่มีอำนาจในการทำลายล้างหรือสร้างสรรค์มหาศาล ยากอบยังประณามความทะเยอทะยานที่มาจากโลกีย์วิสัย ความอิจฉาริษยา และความโอ้อวด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้เชื่อถ่อมตนลงต่อพระเจ้า และกลับใจจากการเป็นมิตรกับโลก สุดท้ายยากอบหนุนใจให้อดทนต่อความทุกข์ยาก รอคอยการเสด็จกลับมาของพระเจ้า ตักเตือนคนร่ำรวยที่กดขี่คนยากจน และเน้นย้ำถึงพลังของการอธิษฐาน รวมถึงการอธิษฐานเพื่อผู้ป่วย ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความเชื่อที่แสดงออกผ่านการประพฤติที่ดีงามในทุกด้านของชีวิต
พระธรรมยากอบเขียนโดยยากอบ น้องชายต่างมารดาของพระเยซู ซึ่งเคยเยาะเย้ยพระองค์ การที่เขาระบุตัวเองว่าเป็น "ผู้รับใช้ของพระเจ้าและของพระเยซูคริสต์เจ้า" แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่น่าทึ่ง หนังสือเล่มนี้มีเป้าหมายสำหรับผู้เชื่อในคริสตจักรที่อยู่นอกอิสราเอล โดยมีสาระสำคัญที่ว่าหลักคำสอนในพระธรรมนี้เป็นเครื่องหมายของการรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นรายการสิ่งที่เราต้องทำเพื่อได้รับความชอบธรรมจากพระองค์ หากนำออกจากบริบท อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเราสามารถได้รับความชอบธรรมด้วยการกระทำของเราเอง
ยากอบชี้ว่าแม้คริสตจักรจะเผชิญการทดลอง แต่สิ่งเหล่านั้นกลับช่วยสร้างความมั่นคงและความสมบูรณ์ในชีวิต ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของคำว่า "สมบูรณ์" ที่ปรากฏบ่อยครั้ง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ประทานความสมบูรณ์แบบนี้ได้ ยากอบเองดำเนินชีวิตตามคำสอนของตนจนถึงจุดจบในฐานะผู้พลีชีพ เขาเน้นย้ำให้เราทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่พระองค์ทรงใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูชีวิต สติปัญญาที่แท้จริงคือความรู้ของพระเจ้า ซึ่งช่วยให้เราอดทนต่อการทดลอง ต่อต้านการล่อลวง จัดการทรัพย์สิน และดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจและความเชื่อ
ยากอบกล่าวถึงความท้าทายในการควบคุมลิ้น ซึ่งเขาเองก็เคยประสบมาในอดีต การเปลี่ยนแปลงใจจะปรากฏให้เห็นในคำพูดและการกระทำของเรา แม้เราจะหลอกตัวเองได้ง่ายเกี่ยวกับแรงจูงใจ แต่การกระทำของเราต่างหากที่สะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจ เมื่อยากอบกล่าวว่า "คนจะชอบธรรมได้ด้วยการกระทำ ไม่ใช่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียว" (ยากอบ 2:24) เขาหมายถึงการกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ความเชื่อที่แท้จริงต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อ้างว่าเชื่อแต่ไม่แสดงหลักฐาน เขายังชี้ถึงปัญญาบริสุทธิ์ที่นำมาซึ่งสันติสุข ความเมตตา และการไม่ลำเอียง ซึ่งสอนให้เราเป็นผู้สร้างสันติ มีความพอใจ ถ่อมใจ และให้ความสำคัญกับพระเจ้าในทุกด้านของชีวิต เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์
ข้อคิด: ยากอบ 1-5
พระธรรมยากอบอาจเผยให้เห็นจุดบอดและความอ่อนแอของเรา แต่จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อให้เรารู้สึกผิดหวัง แต่เพื่อละสายตาจากตนเองและหันกลับไปหาพระเจ้า ผู้ซึ่งทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเมตตา ยากอบปิดท้ายหนังสือด้วยการเชื้อเชิญให้เรายอมรับการเป็นคนบาป ไม่ต้องซ่อนเร้น แต่ควรเปิดเผยและขอความช่วยเหลือ ทั้งจากพระเจ้าและจากผู้อื่นที่กำลังดิ้นรนเช่นกัน เพื่อที่เราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากพระองค์ร่วมกันได้ เพราะพระองค์จะทรงช่วยเราเสมอ เราไม่ได้อยู่คนเดียวในการต่อสู้เหล่านี้ ยากอบยังชี้ไปที่เอลียาห์ ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นเรา เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นไปได้เมื่อคนบาปแสวงหาพระเจ้า ดังนั้นจงเข้ามาใกล้เถิด เพราะในพระองค์คือความชื่นชมยินดีที่แท้จริง
คำถาม
1. คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความเชื่อ ค่านิยม หรือหลักการที่คุณยึดถือนั้นเป็นของแท้และส่งผลให้เกิดการกระทำที่สอดคล้องกันในชีวิตประจำวันของคุณ โดยไม่เป็นเพียงแค่คำพูดหรือความคิด? (พิจารณาจากคำสอนของยากอบที่เน้นย้ำว่าความเชื่อที่แท้จริงจะปรากฏออกมาจากการกระทำ ไม่ใช่แค่การได้ยินพระวจนะ (ยากอบ 1:22-25) หรือการกล่าวอ้าง (ยากอบ 2:14-26) รวมถึงการควบคุมลิ้นให้เป็นเครื่องมือแห่งพระพร ไม่ใช่คำแช่ง (ยากอบ 3:1-12) วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่กระตุ้นให้คุณใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับสิ่งที่ปากของคุณกล่าวอ้าง และคุณจะวัดผลความจริงใจของความเชื่อของคุณได้อย่างไร?)
2. ในช่วงเวลาที่คุณเผชิญกับความยากลำบาก ความไม่แน่นอน หรือการทดลองในชีวิต คุณจะรักษามุมมองที่เป็นผู้ใหญ่ ความอดทน และความถ่อมตนได้อย่างไร เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นนำคุณไปสู่การเติบโตและเสริมสร้างวัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณ? (ไตร่ตรองจากคำแนะนำของยากอบที่ให้ถือว่าการทดลองเป็นความชื่นชมยินดี เพราะจะนำไปสู่ความทรหดอดทนและทำให้เราสมบูรณ์พร้อม (ยากอบ 1:2-4) การตักเตือนให้ถ่อมใจลงต่อพระพักตร์พระเจ้าเพื่อพระองค์จะทรงยกชูขึ้น (ยากอบ 4:6-10) และการรอคอยอย่างอดทนด้วยความหวังในพระเจ้า (ยากอบ 5:7-11) วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่ช่วยให้คุณมองเห็นคุณค่าของการอดทนผ่านความยากลำบาก และคุณจะหลีกเลี่ยงความหยิ่งยโสหรือการบ่นว่าที่อาจบดบังการเติบโตทางจิตวิญญาณได้อย่างไร?)
ยากอบ บทที่ 1 มุ่งเน้นที่การพัฒนาลักษณะนิสัยของคริสเตียนที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีต่อความทุกข์ยาก การแสวงหาสติปัญญา และความสำคัญของการประพฤติตามพระคำ
1. การเผชิญหน้ากับการทดลองและความทุกข์ยาก
- เปลี่ยนมุมมองต่อความทุกข์ยาก: ยากอบหนุนใจให้ถือว่าการทดลองใจหรือความทุกข์ยากที่เผชิญอยู่นั้น เป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง เพราะเป็นกระบวนการที่พิสูจน์ความเชื่อ
- ผลลัพธ์ของความอดทน: เมื่อความเชื่อถูกทดสอบจะก่อให้เกิดความอดทน และเมื่อความอดทนมีผลอย่างสมบูรณ์จะทำให้เราเป็นผู้ที่สมบูรณ์และครบถ้วน ไม่ขาดสิ่งใดเลย
- ต้นตอของการทดลอง: พระเจ้าไม่ได้ทรงล่อลวงใครให้ทำชั่ว การทดลองนั้นเกิดจากตัณหา (ความปรารถนาชั่ว) ของเราเองที่ล่อลวงและชักนำไป เมื่อตัณหาเกิดผลก็จะนำไปสู่ความบาป และความบาปเมื่อสำเร็จแล้วก็ก่อให้เกิดความตาย
- พระเจ้าคือผู้ประทานสิ่งดี: พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดของของประทานอันดีงามและสมบูรณ์ทุกอย่าง และพระองค์ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง
2. การแสวงหาสติปัญญาและความเชื่อ
- ทูลขอด้วยความเชื่อ: หากขาดสติปัญญาในการเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ให้ทูลขอจากพระเจ้าด้วยความเชื่อและอย่าสงสัย เพราะพระเจ้าทรงประทานให้แก่ทุกคนอย่างบริบูรณ์และไม่ทรงตำหนิ
- อย่าเป็นคนสองจิตสองใจ: ผู้ที่สงสัย (สองจิตสองใจ) จะไม่ได้รับสิ่งที่ทูลขอ เพราะเขาเป็นเหมือนคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปมา ซึ่งแสดงถึงความไม่มั่นคงในทุกทาง
- ทัศนคติต่อความร่ำรวยและความยากจน:
- คนยากจน ควรชื่นชมยินดีในการที่พระเจ้าทรงยกชูเขาขึ้น
- คนร่ำรวย ควรชื่นชมยินดีในการที่เขาต้องถ่อมใจลง เพราะความมั่งคั่งทางโลกเป็นเพียงสิ่งชั่วคราวและจะเหี่ยวเฉาไป เหมือนดอกไม้ป่าที่ร่วงโรย
3. การประพฤติและการควบคุมตนเอง
- การควบคุมวาจาและอารมณ์: ทุกคนต้องไวในการฟัง ช้าในการพูด และ ช้าในการโกรธ เพราะความโกรธของมนุษย์ไม่ได้นำไปสู่ความชอบธรรมของพระเจ้า
- ผู้ฟังและผู้ประพฤติ: ข้อคิดที่สำคัญที่สุดคือ อย่าเป็นเพียงผู้ฟังที่หลอกตัวเอง แต่จงเป็นผู้ที่ประพฤติตามพระคำ การรับฟังพระคำแล้วไม่ทำตามเปรียบเหมือนคนที่มองดูหน้าตัวเองในกระจกแล้วก็เดินจากไปและลืมว่าตัวเองเป็นอย่างไร
- ศาสนาที่บริสุทธิ์: ศาสนาที่บริสุทธิ์และปราศจากตำหนิในสายพระเนตรของพระเจ้าคือ การเยี่ยมเยียนดูแลเด็กกำพร้าและหญิงม่ายที่ตกทุกข์ได้ยาก และ การรักษาตัวเองให้ปราศจากมลทินของโลก (ดำรงชีวิตที่แตกต่างจากค่านิยมที่ไม่ถูกต้องของโลก)
ยากอบ 1 สอนให้เราเปลี่ยนความทุกข์ยากให้เป็นความอดทน, ทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้าด้วยความเชื่อที่มั่นคง, ควบคุมอารมณ์และคำพูด, และสำคัญที่สุดคือ ลงมือทำตามพระคำที่เราได้ยิน