Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โรม 14

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โรม 15

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โรม 16

เรื่องย่อ

อัครทูตเปาโลได้สอนให้ผู้เชื่อหลีกเลี่ยงการพิพากษาซึ่งกันและกันในเรื่องที่ไม่ใช่แก่นสารสำคัญ เช่น การกินอาหาร หรือการถือวันพิเศษ แต่ให้ดำเนินชีวิตเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และพยายามสร้างเสริมซึ่งกันและกัน โดยผู้ที่เข้มแข็งในความเชื่อควรแบกรับความอ่อนแอของผู้ที่อ่อนกว่า ตามแบบอย่างของพระคริสต์ เพื่อที่ชาวยิวและคนต่างชาติจะสามารถสรรเสริญพระเจ้าร่วมกันได้ ท่านยังได้เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์อันกว้างใหญ่ในการประกาศข่าวประเสริฐในที่ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้ยินพระนามของพระคริสต์ พร้อมทั้งแสดงความรักและผูกพันกับพี่น้องในกรุงโรมผ่านคำทักทายมากมาย และปิดท้ายจดหมายด้วยบทสรรเสริญอันยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์และปรีชาสามารถ ผู้ทรงเปิดเผยความล้ำลึกแห่งพระกิตติคุณของพระองค์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างความเชื่อของเราให้มั่นคงและนำความรอดมาสู่คนทั้งปวง

 

เปาโลเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีพื้นที่สำหรับความคิดเห็นและความชอบที่หลากหลายภายในพระกายของพระคริสต์ โดยเตือนว่าการโต้แย้งในเรื่องที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องทางศาสนา มักนำไปสู่ความแตกแยกและความเย่อหยิ่ง แทนที่จะเป็นความสามัคคี เราแต่ละคนควรดำเนินชีวิตตามความเชื่อมั่นส่วนตัวภายใต้การทรงนำของพระวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็ไว้วางใจว่าพระเจ้าจะทรงนำผู้อื่นเช่นกัน ความรักคือเหตุผลสำคัญที่เราควรเต็มใจละทิ้งสิทธิและความชอบของเรา หากการกระทำเหล่านั้นอาจทำให้ผู้อื่นสะดุด เป้าหมายของเราควรเป็นการแสวงหาสันติสุขอย่างจริงจัง และเสริมสร้างซึ่งกันและกันเสมอ

เมื่อเปาโลกล่าวว่า "ความเชื่อที่ท่านมี จงยึดไว้ระหว่างท่านกับพระเจ้าเถิด" ท่านไม่ได้หมายถึงให้เก็บความเชื่อไว้เป็นความลับ แต่เป็นการเรียกร้องให้เรายึดมั่นในความเชื่อมั่นส่วนตัวของเราอย่างมั่นคง และสำแดงออกมาในทุกการกระทำ นอกจากนี้ พระคัมภีร์เดิมยังทำหน้าที่สั่งสอน หนุนใจ และให้ความหวังแก่เราเสมอ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ประทานความหวังนั้น พระเจ้าทรงประสงค์ให้ครอบครัวของพระองค์มีความหลากหลายมาตั้งแต่ต้น เปาโลจึงหนุนใจคริสตจักรให้ดำเนินชีวิตในความสามัคคีเสมือนวงซิมโฟนี ที่แม้จะเล่นเครื่องดนตรีและท่วงทำนองที่แตกต่างกัน แต่ก็รวมกันเป็นบทเพลงที่งดงามเพื่อถวายพระสิริแด่พระเจ้า

เปาโลยังปรารถนาให้ผู้เชื่อสั่งสอนและเสริมสร้างซึ่งกันและกันอย่างสงบสุข ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราทุกคนมุ่งมั่นที่จะเติบโตในสติปัญญาและเรียนรู้จากสิ่งที่พระเจ้าทรงสอนแก่เราและผู้อื่น ท่านเริ่มสรุปจดหมายถึงชาวโรมด้วยการแสดงความรัก และแจ้งถึงแผนการเดินทางไปกรุงเยรูซาเล็มพร้อมเงินช่วยเหลือ ก่อนจะหวังแวะเยือนโรมระหว่างทางไปสเปน จดหมายนี้ถูกส่งโดยฟีบี ผู้รับใช้หรือผู้ช่วยศิษยาภิบาล ซึ่งท่านขอให้ต้อนรับและช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดี รวมถึงอาควิลาและปริสสิลลา ที่เคยเสี่ยงชีวิตเพื่อท่าน สุดท้าย เปาโลเตือนให้ระวังผู้ที่ล่อลวงจิตใจของผู้ไร้เดียงสา โดยเน้นย้ำว่าความรู้เป็นเครื่องป้องกันจากการหลอกลวง

 

ข้อคิด: โรม 14-16

"พระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงเหยียบย่ำซาตานไว้ใต้เท้าของท่านในเร็ววัน" (โรม 16:20) ข้อความนี้ย้ำเตือนว่าเพื่อนำสันติสุขที่แท้จริงมาสู่สถานการณ์ใดๆ เราต้องไม่เพิกเฉยต่อความวุ่นวาย แต่ต้องเผชิญหน้ากับมัน ซึ่งพระเจ้าทรงจัดการกับความวุ่นวายและแผนการชั่วร้ายของซาตานโดยการทรงเหยียบย่ำมัน เราทุกคนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่พระเจ้าทรงชนะแล้ว โดยที่พระองค์ทรงเหยียบย่ำซาตานไว้ใต้เท้าของเราเอง พระองค์ทรงเป็นผู้ที่เหยียบย่ำและเป็นผู้เสริมกำลังเรา (โรม 16:25) ทรงทำให้เราเข้มแข็ง เคลื่อนไหวเท้าของเรา และทำลายล้างศัตรูของเรา ในพระองค์นั้นเองคือแหล่งกำเนิดแห่งความชื่นชมยินดีของเรา!

 

คำถาม

1.   ในบทที่ 14 เมื่อเปาโลย้ำว่า "อาณาจักรของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรม สันติสุข และความชื่นชมยินดี" และสั่งไม่ให้เราตัดสินพี่น้องในเรื่องที่มีความเห็นต่าง (เช่น เรื่องอาหารหรือวันสำคัญ) การจัดลำดับความสำคัญเช่นนี้ชี้ให้เห็นว่า วัตถุประสงค์ของการมีวินัยในคริสตจักรควรเป็นไปเพื่อสิ่งใด? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของการดำเนินชีวิตร่วมกัน ไม่ใช่การสร้างมาตรฐานเดียว ในเรื่องเปลือกนอกเพื่อให้ทุกคนทำเหมือนกันหมด แต่คือการรักษา "เอกภาพ" ที่เกิดจากการเห็นคุณค่าของ "จิตวิญญาณพี่น้อง" มากกว่า "ความถูกใจส่วนตัว" เพื่อไม่ให้เรื่องเล็กน้อยมาทำลายงานของพระเจ้า)

2.   ในบทที่ 16 ซึ่งเต็มไปด้วยรายชื่อบุคคลมากมาย ทั้งชายและหญิง ทาสและไท ซึ่งเปาโลทักทายด้วยความรักและให้เกียรติในฐานะ "เพื่อนร่วมงาน" การบันทึกรายชื่อเหล่านี้ไว้ในพระคัมภีร์ท้าทายแนวคิดแบบ "ฮีโร่เดี่ยว" ในการรับใช้ และสะท้อนวัตถุประสงค์ของโครงสร้างคริสตจักรอย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของพันธกิจข่าวประเสริฐ ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยผู้นำที่เก่งกาจเพียงลำพัง แต่พระเจ้าทรงออกแบบให้คริสตจักรเป็น "เครือข่ายแห่งความสัมพันธ์" ที่ทุกคน—ไม่ว่าจะบทบาทเล็กหรือใหญ่—ล้วนมีความสำคัญและขาดไม่ได้ในการขับเคลื่อนงานของพระเจ้าให้สำเร็จ)

 

 

โรม บทที่ 16 เป็นบทสรุปที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยการทักทาย การระลึกถึงผู้ร่วมงาน และคำเตือนสุดท้าย โดยมีข้อคิดหลัก ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ดังนี้ครับ:

1. ความสำคัญของการให้เกียรติและพันธกิจร่วมกัน (ข้อ 1-16)

  • คุณค่าของผู้รับใช้ทุกคน: เปาโลเริ่มต้นด้วยการยกย่อง เฟบี ผู้เป็นทั้งผู้รับใช้ (มัคนายิกา) และผู้อุปถัมภ์ (ผู้สนับสนุนช่วยเหลือ) ของคริสตจักร ข้อคิดนี้สอนให้เห็นว่า คริสตจักรเข้มแข็งได้ด้วยการรับใช้ที่หลากหลายบทบาท ทั้งจากผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะบทบาทของผู้สนับสนุนเบื้องหลัง
  • การเสียสละเพื่อพันธกิจ: เปาโลระลึกถึงบุคคลสำคัญมากมาย เช่น ปริสคาและอาควิลลา ที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเปาโล หรือ มารีย์ ที่ตรากตรำทำงานหนักในพันธกิจ สิ่งนี้เน้นย้ำว่า ความสำเร็จในงานของพระเจ้ามาจากการร่วมแรงร่วมใจและความเสียสละอย่างแท้จริง
  • เครือข่ายความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น: การทักทายถึง 26 คนโดยเจาะจง สะท้อนให้เห็นว่า คริสตจักรไม่ได้เป็นเพียงองค์กร แต่เป็น "ครอบครัว" ที่มีสายสัมพันธ์แห่งความรักและความภักดีต่อกัน

2. การระมัดระวังความแตกแยกและคำสอนเทียมเท็จ (ข้อ 17-20)

  • การเตือนภัยจากผู้ที่สร้างความแตกแยก: เปาโลเตือนอย่างรุนแรงให้สังเกตและหลีกเลี่ยงคนที่ก่อเหตุวิวาทและทำให้ผู้เชื่อหลงผิดไปจากคำสอนแท้จริง (หลักคำสอนที่ได้เรียนรู้)
  • ลักษณะของผู้หลอกลวง: คนเหล่านี้มักจะรับใช้ความปรารถนาของตนเอง ไม่ใช่พระคริสต์ และใช้ถ้อยคำที่อ่อนหวานและคำยกยอเพื่อหลอกลวงผู้ที่ไม่ระมัดระวัง (ผู้ที่ซื่อและไม่สงสัย)
  • ความเชี่ยวชาญในการดี: ข้อคิดสำคัญคือการเน้นย้ำให้ผู้เชื่อจงฉลาดในการดีและทึ่มในการชั่ว นั่นคือให้เราฝึกฝนตนเองในการประพฤติชอบและปฏิเสธที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความชั่วร้ายหรือคำสอนที่ทำให้ไขว้เขว

3. การสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงเปิดเผยแผนการไถ่บาป (ข้อ 25-27)

  • ข่าวประเสริฐอันเป็นความล้ำลึก: เปาโลสรุปจดหมายด้วยการสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงมีอำนาจที่จะเสริมกำลังผู้เชื่อตามข่าวประเสริฐของพระองค์ ซึ่งเป็นความจริงอันล้ำลึกที่ถูกปิดบังไว้ในยุคก่อน ๆ
  • การเปิดเผยเพื่อการเชื่อฟัง: ความล้ำลึกนี้ถูกเปิดเผยแล้วโดยทางพระเยซูคริสต์ และผ่านพระคัมภีร์ของบรรดาผู้เผยพระวจนะ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ชนชาติต่าง ๆ เชื่อฟังด้วยความเชื่อ
  • การสรรเสริญแด่พระเจ้าผู้ทรงปัญญาแต่เพียงผู้เดียว: การจบลงด้วยการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงปัญญาแต่เพียงผู้เดียว เน้นย้ำว่าการไถ่บาปทั้งหมดเป็นไปตามพระปัญญาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

โรม บทที่ 16 สอนว่า ชีวิตคริสเตียนไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว แต่ต้องผูกพันในชุมชนแห่งความรักและความร่วมมือ ในขณะเดียวกันก็ต้องมีวิจารณญาณที่เฉียบคม เพื่อปกป้องความเชื่อจากผู้ที่พยายามทำลายความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยคำสอนผิด ๆ