เรื่องย่อ

ท่ามกลางคำเตือนอันน่าขนลุกถึงชะตากรรมที่รออยู่เบื้องหน้า อัครทูตเปาโลได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันไม่หวั่นไหวในการเดินสู่กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยน้ำตาและการพลัดพรากจากพี่น้องในเอเฟซัส และคำพยากรณ์อันหนักหน่วงจากอะกาทัสถึงโซ่ตรวนที่รอคอย ทว่าเปาโลยังคงประกาศว่าท่านพร้อมแม้จะตายเพื่อพระนามพระเยซูคริสต์ เมื่อมาถึงจุดหมาย ท่านกลับต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้านอันบ้าคลั่งจากฝูงชนชาวยิวที่เกือบจะคร่าชีวิตท่าน ณ ลานพระวิหาร ก่อนจะถูกช่วยชีวิตอย่างปาฏิหาริย์โดยทหารโรมัน ท่านใช้โอกาสนี้ยืนหยัดปกป้องความเชื่อและเล่าเรื่องการกลับใจอย่างกล้าหาญ ทั้งยังฉลาดหลักแหลมในการเผชิญหน้ากับสภาซันเฮดริน โดยใช้ความแตกแยกทางความเชื่อระหว่างพวกฟาริสีและสะดูสีให้เป็นประโยชน์ จนเกิดความโกลาหลและท่านต้องถูกส่งตัวไปยังซีซารียาอย่างปลอดภัยภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา ท่ามกลางความวุ่นวายและภัยคุกคามเหล่านี้ ความเชื่ออันแน่วแน่ของเปาโลและแผนการของพระเจ้าที่คอยคุ้มครองได้เปล่งประกายออกมาอย่างชัดเจน

เปาโลยังคงเทศนาประกาศไปทั่วยุโรปและเอเชีย มุ่งหน้าสู่กรุงเยรูซาเล็มพร้อมเงินบริจาค แม้จะเกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ระหว่างทาง เช่น การฟื้นคืนชีพของยูทิกัส แต่พระวิญญาณก็ทรงเตือนเขาอย่างสม่ำเสมอถึงการถูกจองจำและความทุกข์ยากที่รออยู่ การเตือนเหล่านี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับการที่พระวิญญาณทรงนำเปาโลไปยังเยรูซาเล็ม ในขณะที่คนอื่นๆ กลับได้รับคำเตือนจากพระวิญญาณไม่ให้เขาไป นักวิชาการอธิบายว่า พระวิญญาณไม่ได้ทรงห้ามเปาโลโดยตรง แต่ทรงเปิดเผยถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งผู้คนตีความเป็นการห้าม ส่วนเปาโลมองว่าเป็นการยืนยันถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่เขาต้องเผชิญหน้า

เปาโลไม่หวั่นไหวต่อคำเตือนเหล่านั้น โดยเฉพาะเมื่อผู้เผยพระวจนะอากาบัสได้แสดงหมายสำคัญบ่งชี้ว่าเขาจะถูกจับมัดในเยรูซาเล็ม เปาโลกลับถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการยืนยันถึงแผนการของพระเจ้าที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อถึงเยรูซาเล็ม ยากอบได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้เชื่อชาวยิว แต่ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเปาโลสอนให้ชาวยิวละทิ้งธรรมบัญญัติ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ ยากอบจึงแนะนำให้เปาโลเข้าร่วมในพิธีชำระของชายสี่คนภายใต้คำปฏิญาณนาศีร์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขายังเคารพประเพณีของชาวยิว

แม้เปาโลจะเต็มใจทำตามเพื่อประโยชน์ของข่าวประเสริฐ แต่ระหว่างที่อยู่ในพระวิหาร ชาวยิวบางคนกลับใส่ร้ายว่าเขานำคนต่างชาติเข้ามาในเขตหวงห้าม ทำให้เกิดการจลาจลและการถูกทำร้ายร่างกาย เขาถูกจับกุม แต่ด้วยความเป็นพลเมืองโรมัน ทำให้รอดจากการถูกเฆี่ยนตี ผู้ปกครองอนุญาตให้เขาอธิบายแก่ฝูงชน แต่เมื่อเขาประกาศว่าพระเจ้าส่งเขาไปยังคนต่างชาติ ฝูงชนก็เรียกร้องให้ประหารชีวิตเขา เปาโลถูกนำตัวขึ้นศาลและพลิกสถานการณ์โดยการทำให้พวกฟาริสีและสะดูสีโต้แย้งกันเองเรื่องการฟื้นคืนชีพ พระเจ้าทรงปรากฏแก่เปาโลในคืนนั้นและตรัสว่าเขาจะต้องเป็นพยานในกรุงโรม ท่ามกลางแผนการลอบสังหารของกลุ่มคนบางกลุ่ม หลานชายของเปาโลได้แจ้งข่าวนี้ ทำให้เขาถูกส่งตัวไปยังผู้ว่าการเฟลิกส์ที่ซีซารียาภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา

ข้อคิด: กิจการ 20-23

ตั้งแต่ก่อนการบังเกิดของเปาโล พระเจ้าได้ทรงเตรียมทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการก้าวหน้าของข่าวประเสริฐ โดยจัดเตรียมให้เขามีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น การมีสองสัญชาติ ความสามารถในการพูดภาษาฮีบรูและกรีก การเป็นฟาริสีที่มีความรู้ และแม้กระทั่งสถานการณ์ที่เขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นชาวอียิปต์ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาอยู่รอดจากการถูกจับกุมและดำเนินพันธกิจต่อไปได้ แม้จะถูกจองจำ แต่พันธกิจของเขาก็ไม่เคยหยุดชะงัก เพราะพระเจ้าทรงใส่พระทัยในทุกรายละเอียด ไม่ใช่เพียงแค่แผนการใหญ่ แต่รวมถึงแผนการเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ซึ่งสะท้อนถึงฤทธิ์อำนาจอันไม่สิ้นสุด พระปรีชาญาณอันละเอียดอ่อน และการทรงควบคุมทุกความซับซ้อน เพื่อให้ความชื่นชมยินดีดำรงอยู่ในทุกสิ่งตามแผนการของพระองค์เสมอ

คำถาม

1.   ในบทที่ 20 เมื่อเปาโลกล่าวอำลาผู้ปกครองเมืองเอเฟซัส ท่านระบุว่า "ข้าพเจ้ามิได้ถือว่าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งมีค่า... แต่ขอทำหน้าที่ให้สำเร็จ" (ข้อ 24) และยืนยันที่จะเดินทางไปเยรูซาเล็มแม้จะมีคำพยากรณ์เรื่องการถูกจับกุมรออยู่ (บทที่ 21) ท่าทีที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกนี้ ท้าทายเราให้พิจารณาถึง "ความสำเร็จ" ในสายตาพระเจ้าว่ามีวัตถุประสงค์ต่างจากความสำเร็จทางโลกที่เน้นความปลอดภัยและความมั่งคั่งอย่างไร? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์สูงสุดของชีวิตผู้รับใช้ ไม่ใช่การรักษาชีวิตให้ยืนยาวหรืออยู่อย่างสุขสบาย แต่คือการ "วิ่งแข่งให้ถึงเส้นชัย" ด้วยการทำพันธกิจที่ได้รับมอบหมายให้ครบถ้วน ซึ่งสะท้อนว่าคุณค่าของชีวิตวัดกันที่ "การเชื่อฟัง" และ "การเป็นพยาน" จนวินาทีสุดท้าย)

2.   หลังจากเปาโลเผชิญกับจลาจล การถูกจับกุม และการปองร้ายในบทที่ 21-23 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมาปรากฏและตรัสว่า "เจ้าจะต้องเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงโรมด้วย" (23:11) การที่พระเจ้าทรงใช้วิกฤตการณ์ทางกฎหมายและโซ่ตรวนเป็น "พาหนะ" ในการพาเปาโลไปสู่เป้าหมายถัดไป สะท้อนให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของอุปสรรคที่เรากำลังเผชิญอยู่อย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของปัญหาหรือทางตันในชีวิต อาจไม่ใช่จุดจบ แต่เป็น "แผนการทรงนำ" ของพระเจ้า เพื่อผลักดันเราไปสู่เวทีใหม่หรือโอกาสใหม่ (เช่น กรุงโรม) ที่เราอาจไปไม่ถึงด้วยวิธีการปกติ และเพื่อขยายขอบเขตของข่าวประเสริฐออกไปในที่ที่กว้างไกลกว่าเดิม)

กิจการ บทที่ 23 บันทึกเหตุการณ์ที่สำคัญเมื่ออัครทูตเปาโลยืนอยู่ต่อหน้าสภาซันเฮดริน และถูกส่งตัวไปยังผู้ว่าราชการเฟลิกซ์ ที่เมืองซีซารียา ข้อคิดสำคัญที่ได้จากบทนี้มีดังนี้ครับ:

1. ความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ต่อมโนธรรม

เปาโลเริ่มต้นการป้องกันตัวด้วยการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของมโนธรรมต่อพระเจ้า แม้จะถูกทำร้ายร่างกายและถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรม เขาก็ยังคงยืนหยัดในความเชื่อและความจริงใจของตนเอง

• ข้อคิด: เราควรดำเนินชีวิตด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์ต่อพระเจ้าและมนุษย์เสมอ แม้ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งและการต่อต้าน การยืนหยัดในความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เชื่อ

2. สติปัญญาในการเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง

เมื่อเปาโลเห็นว่าสภาซันเฮดรินประกอบด้วยพวกสะดูสี และพวกฟาริสี ซึ่งมีความเห็นแตกต่างกันอย่างรุนแรงในเรื่องการฟื้นคืนชีพ เปาโลได้ใช้ยุทธวิธีอันชาญฉลาดในการประกาศว่าเขาถูกไต่สวนเพราะความเชื่อเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ (ซึ่งเป็นจุดร่วมกับพวกฟาริสี) ทำให้เกิดความแตกแยกภายในสภา และสภาต้องเลิกการไต่สวนในที่สุด

• ข้อคิด: ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือเป็นปรปักษ์ เราสามารถขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อใช้ในการสื่อสารและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด โดยไม่ละทิ้งความจริงของพระกิตติคุณ

3. การปลอบโยนและการทรงนำจากพระเจ้าในความทุกข์ยาก

ในคืนหลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย พระเยซูทรงปรากฏแก่เปาโลและตรัสปลอบโยนเขาว่า "จงมีใจกล้าเถิด เพราะเจ้าได้เป็นพยานยืนยันถึงเราในกรุงเยรูซาเล็มฉันใด เจ้าจะต้องเป็นพยานยืนยันถึงเราในกรุงโรมฉันนั้น"

• ข้อคิด: แม้ในสถานการณ์ที่อันตรายและโดดเดี่ยวที่สุด พระเจ้าก็ไม่เคยทอดทิ้งเรา พระองค์ทรงรู้ถึงความทุกข์ยากของเรา และทรงให้คำมั่นสัญญาถึงการทรงนำและการปกป้อง เพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ

4. การปกป้องดูแลโดยพระเจ้าผ่านมนุษย์

พระเจ้าทรงใช้หลานชายของเปาโลให้ได้ยินแผนร้ายของกลุ่มคนยิวที่สาบานว่าจะฆ่าเปาโล และนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ผู้บังคับกองพันทราบ ผู้บังคับกองพันจึงจัดกำลังทหารคุ้มกันเปาโลอย่างแน่นหนาเพื่อพาเขาไปส่งยังซีซารียาตามกฎหมาย

• ข้อคิด: พระเจ้าสามารถใช้บุคคลที่ไม่คาดคิดและอำนาจฝ่ายโลก (ในที่นี้คือทหารโรมัน) ในการปกป้องและจัดเตรียมหนทางให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ความรอดพ้นของเราไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการจัดเตรียมของพระเจ้า

กิจการ บทที่ 23 แสดงให้เห็นถึง ความกล้าหาญ ของเปาโลภายใต้การถูกข่มเหง สติปัญญา ในการเผชิญหน้ากับศัตรู และที่สำคัญที่สุดคือ การทรงสถิตและการปกป้องดูแลของพระเจ้า ที่ทรงให้กำลังใจและทรงนำเปาโลไปสู่การเป็นพยานในกรุงโรมตามพระประสงค์ของพระองค์