เรื่องย่อ
โคโลสี 1-4 ได้ปลดปล่อยคริสตจักรแห่งโคโลสีให้พ้นจากพันธนาการของปรัชญาเทียมเท็จและการยึดติดกับพิธีกรรม โดยชี้ให้เห็นว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุด เป็นผู้สร้าง ผู้ค้ำจุน และผู้คืนดีทุกสิ่ง พร้อมทั้งเรียกผู้เชื่อให้ตายต่อชีวิตเก่าแห่งบาปและสวมชีวิตใหม่ที่สะท้อนคุณลักษณะของพระองค์ ผ่านการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา และปัญญาในทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว การงาน หรือการปฏิบัติต่อผู้อื่น และในจดหมายส่วนตัวถึงฟิเลโมน เปาโลได้สาธิตหลักการอันลึกซึ้งนี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม ด้วยการวิงวอนให้ฟิเลโมนรับโอนิสิมัส ทาสที่เคยหนีไป กลับคืนมา ไม่ใช่ในฐานะทาสอีกต่อไป แต่ในฐานะน้องชายที่รักในพระคริสต์ สะท้อนให้เห็นว่าในอาณาจักรของพระเจ้า ความแตกต่างทางสถานะหรือชนชั้นไม่มีความหมาย และความรักและการให้อภัยในพระคริสต์นั้นสามารถแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่เคยแตกหักให้กลับมาผูกพันกันในรูปแบบใหม่ที่งดงามยิ่งกว่าเดิม แสดงให้เห็นว่าพระกิตติคุณไม่ได้แค่เปลี่ยนมุมมอง แต่เปลี่ยนทุกมิติของชีวิตอย่างแท้จริง
ในขณะที่เปาโลถูกจองจำอยู่ในคุก ท่านได้เขียนจดหมายถึงคริสตจักรที่เมืองโคโลสี ซึ่งท่านไม่เคยพบด้วยตนเอง แต่ได้รับรายงานปัญหาจากผู้นำของพวกเขา ท่านหนุนใจพวกเขาให้เติบโตในความรู้และความรักต่อพระเจ้า เพื่อให้ชีวิตของพวกเขาส่งผลดีด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เปาโลอธิบายว่าความทุกข์ทรมานของท่านเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐของพระคริสต์ ท่านเตือนชาวโคโลสีไม่ให้หลงผิดไปกับปรัชญาท้องถิ่น การบูชารูปเคารพ หรือธรรมเนียมยิวที่ไม่จำเป็นสำหรับคนต่างชาติ โดยย้ำว่าการที่พวกเขาได้รับการอภัยบาปและมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์นั้นเพียงพอแล้ว และควรงดเว้นจากการปฏิบัติทางศาสนาที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับพระเยซู
เปาโลสอนพวกเขาว่าการตายพร้อมกับพระคริสต์นำไปสู่ชีวิตใหม่ ท่านจึงหนุนใจให้ละทิ้งการกระทำทางโลก เช่น การผิดศีลธรรม ความโลภ (ซึ่งถือเป็นการบูชารูปเคารพ) ความโกรธ และการโกหก แต่ให้สวมใส่คุณธรรมของพระเจ้าแทน เช่น ความเห็นอกเห็นใจ ความเมตตา ความถ่อมตน ความอดทน และความรัก ซึ่งจะนำมาซึ่งสันติสุขและการขอบพระคุณ หลักการเหล่านี้ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเปาโลแนะนำให้สามีรักภรรยา บิดาไม่ทำให้บุตรท้อแท้ ทาสประพฤติตนอย่างให้เกียรติ และนายปฏิบัติต่อทาสด้วยความเคารพ โดยเน้นว่าผู้เชื่อในพระคริสต์ควรปฏิบัติต่อทุกคนด้วยศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ เปาโลยังได้เขียนจดหมายส่วนตัวถึงฟีเลโมนเพื่อขอร้องแทนโอเนสิมัส ทาสของฟีเลโมนที่เคยหนีไปและอาจขโมยทรัพย์สิน โอเนสิมัสได้กลับใจเป็นคริสเตียนและกลายเป็นผู้ช่วยที่มีคุณค่าของเปาโล แม้เปาโลปรารถนาจะให้โอเนสิมัสอยู่กับท่าน แต่ท่านก็ส่งเขากลับไปหาฟีเลโมน เพื่อให้เกิดการคืนดีกัน เปาโลขอให้ฟีเลโมนต้อนรับโอเนสิมัสกลับมาไม่ใช่ในฐานะทาส แต่เป็นพี่น้องที่เท่าเทียมกันในพระคริสต์ และเสนอที่จะชดใช้หนี้สินใดๆ ที่โอเนสิมัสอาจติดค้างไว้ ดุจเดียวกับที่พระคริสต์ทรงชำระหนี้บาปของเรา
ข้อคิด: โคโลสี 1-4; ฟิเลโมน 1
โคโลสี 1:15–20 บรรยายถึงพระคริสต์ว่าเป็นพระฉายของพระเจ้าผู้ทรงไม่อาจมองเห็นได้ ทรงเป็น "บุตรหัวปีเหนือสรรพสิ่ง" ซึ่งแสดงถึงสิทธิอำนาจสูงสุดและทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น และทรงค้ำจุนทุกสิ่งไว้ด้วยกัน พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสิ่งทั้งปวงและเป็นศีรษะของคริสตจักร ทรงเป็นปฐมและผู้แรกที่ฟื้นคืนชีพจากความตาย เพื่อจะทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง ความบริบูรณ์แห่งความเป็นพระเจ้าดำรงอยู่ในพระองค์อย่างสมบูรณ์ และโดยทางพระโลหิตบนกางเขน พระองค์ทรงทำให้สิ่งทั้งปวงคืนดีกับพระเจ้า นำความสงบสุขและการฟื้นฟูมาสู่การทรงสร้างทั้งหมด
คำถาม
1. ในโคโลสีบทที่ 3 เมื่อเปาโลย้ำว่า "พระคริสต์ทรงเป็นสารพัด และทรงอยู่ในทุกสิ่ง" และสั่งให้ทำทุกงาน "ด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่มนุษย์" หลักการนี้ควรเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการทำงานอาชีพ การเรียน หรือแม้แต่งานบ้านที่จำเจของเรา ให้ต่างไปจากเดิมอย่างไร? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของกิจวัตรประจำวัน ไม่ว่างานนั้นจะดูต่ำต้อยหรือทางโลกเพียงใด คือการ "นมัสการ" และยอมรับสิทธิอำนาจสูงสุดของพระคริสต์ ซึ่งเปลี่ยนงานธรรมดาให้กลายเป็นงานศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนเป้าหมายจากการทำเพื่อเอาใจคนหรือเงินทอง มาเป็นการทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า)
2. ในจดหมายถึงฟิเลโมน การที่เปาโลขอให้ฟิเลโมนรับโอนีซิมัส (ทาสที่หนีไปและอาจขโมยของ) กลับมา ไม่ใช่ในฐานะทาสที่ต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่ในฐานะ "พี่น้องที่รัก" สะท้อนให้เห็นวัตถุประสงค์ของข่าวประเสริฐในการจัดการกับ "ความขัดแย้ง" และ "สถานภาพทางสังคม" อย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของการเป็นพี่น้องในพระคริสต์ คือการ "รื้อกำแพงชนชั้น" และ "การคืนดี" ที่เหนือกว่าความถูกต้องทางกฎหมาย เป้าหมายคือให้เราสำแดงการให้อภัยแบบถอนรากถอนโคน เช่นเดียวกับที่พระคริสต์ทรงไถ่เรา ซึ่งเปลี่ยนสถานะจากศัตรูมาเป็นคนในครอบครัว)
โคโลสี บทที่ 3 เป็นบทที่ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งและเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับผู้เชื่อในพระคริสต์ โดยเน้นที่การดำเนินชีวิตใหม่ในฐานะคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายพร้อมกับพระคริสต์ นี่คือข้อคิดหลักๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้:
1. ตั้งใจไว้ในสิ่งที่อยู่เบื้องบน (ข้อ 1-4)
- เปลี่ยนจุดสนใจ: เนื่องจากเราได้เป็นขึ้นมาพร้อมกับพระคริสต์แล้ว ชีวิตของเราจึงควรเน้นไปที่สิ่งฝ่ายสวรรค์ ไม่ใช่สิ่งฝ่ายโลก
- ความสำคัญของมุมมอง: การมองเห็นชีวิตในมุมมองนิรันดร์จะช่วยให้เราไม่ยึดติดกับความต้องการและความกังวลชั่วคราวของโลกนี้
- ชีวิตถูกซ่อนไว้: ชีวิตที่แท้จริงของเราถูกซ่อนไว้ในพระคริสต์ และจะเปิดเผยอย่างสมบูรณ์เมื่อพระองค์เสด็จมา การตระหนักรู้นี้ให้ความหวังและความมั่นคง
“จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบน ที่ซึ่งพระคริสต์ประทับนั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินโลก”
2. สละทิ้งชีวิตเก่า (ข้อ 5-11)
- การปฏิบัติอย่างจริงจัง: เราต้อง "ทำให้ตาย" ซึ่งหมายถึงการปฏิเสธและกำจัดบาปที่เป็นนิสัยเก่าของเราให้หมดไป เช่น การล่วงประเวณี ความโสโครก ราคะตัณหา ความโลภ และความโกรธ
- ตระหนักถึงผลของบาป: การทำเช่นนี้ก็เพราะว่าพระพิโรธของพระเจ้าจะมาถึงคนที่ไม่เชื่อฟัง
- การเปลี่ยนเสื้อผ้า: เปรียบเทียบกับการถอด "เสื้อผ้าเก่า" (ลักษณะนิสัยฝ่ายบาป) และสวมใส่ "เสื้อผ้าใหม่" (ลักษณะนิสัยใหม่ที่เหมือนพระคริสต์)
- ไม่มีความแตกต่าง: ในพระคริสต์ ไม่มีความแตกต่างทางเชื้อชาติ ฐานะ หรือสถานภาพทางสังคม เพราะทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพระองค์
3. สวมใส่ชีวิตใหม่ (ข้อ 12-17)
- ลักษณะที่ต้องมี: ในฐานะ "คนที่พระเจ้าทรงเลือกสรร" เราต้อง "สวมใส่" คุณลักษณะที่สะท้อนถึงพระลักษณะของพระคริสต์
- ความสงสารและเมตตา
- ความอ่อนสุภาพ
- ความถ่อมใจ
- ความอดกลั้น
- การให้อภัย: ต้องให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนกับที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยเรา
- ความรักคือเครื่องผูกพัน: ความรัก เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ผูกพันคุณสมบัติอื่น ๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
- ให้พระคริสต์ครองใจ: ให้สันติสุขของพระคริสต์ครอบครองในจิตใจเรา และให้พระวจนะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวเราอย่างบริบูรณ์
- ทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า: ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ ก็ให้ทำในพระนามของพระเยซู และขอบพระคุณพระเจ้าโดยทางพระองค์
“เหนือสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด จงสวมความรัก ซึ่งเป็นเครื่องผูกพันความสมบูรณ์พร้อม”
4. การดำเนินชีวิตในครอบครัวและที่ทำงาน (ข้อ 18-25)
- บทนี้ให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมในความสัมพันธ์ทางสังคม:
- ภรรยา: จงยอมอยู่ใต้สามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า
- สามี: จงรักภรรยาและอย่าขมขื่นกับนาง
- บุตร: จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง
- บิดามารดา: อย่าทำให้บุตรขุ่นเคือง เพื่อพวกเขาจะไม่ท้อแท้
- ทาส (ผู้รับใช้/ลูกจ้าง): จงเชื่อฟังเจ้านายด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ต่อหน้า
- เจ้านาย (นายจ้าง): จงปฏิบัติต่อคนงานด้วยความชอบธรรมและยุติธรรม เพราะท่านก็มีเจ้านายองค์เดียวในสวรรค์
โคโลสี บทที่ 3 สอนเราว่าชีวิตคริสเตียนคือการเปลี่ยนตัวตนอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก โดยการทิ้งนิสัยเก่าที่เป็นบาปและสวมใส่นิสัยใหม่ที่เหมือนพระคริสต์ในทุกมิติของชีวิต