เรื่องย่อ
แม้จะถูกพันธนาการในคุกมืดมิด แต่จดหมายของอัครทูตเปาโลถึงชาวฟิลิปปีกลับเปล่งประกายด้วยความปีติยินดีอย่างไม่ลดละ โดยเน้นย้ำถึงแก่นแท้แห่งชีวิตคริสเตียนคือ "พระคริสต์ทรงเป็นทุกสิ่ง" เปาโลเริ่มต้นด้วยการแสดงความขอบคุณต่อชาวฟิลิปปีที่ร่วมในพันธกิจของท่าน และมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงทำการดีในพวกเขาจนสำเร็จ ท่านยอมรับว่าไม่ว่าชีวิตหรือความตาย ล้วนเป็นกำไรหากเป็นเพื่อพระคริสต์ จากนั้น ท่านได้กระตุ้นให้คริสตจักรดำเนินชีวิตอย่างสมกับข่าวประเสริฐ โดยมีใจอย่างพระคริสต์ผู้ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมรับความตายบนกางเขน เพื่อให้พวกเขาสามารถยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ปราศจากการบ่นและโต้แย้ง เปาโลยังได้เตือนให้ระวังผู้สอนผิด และชี้ให้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของการรู้จักพระคริสต์ ซึ่งทำให้ท่านยอมทิ้งทุกสิ่งในโลกนี้ไปหมดสิ้น และปิดท้ายด้วยการหนุนใจให้ปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ อธิษฐานอย่างไม่หยุดยั้ง และคิดถึงแต่สิ่งที่ดีงาม เพื่อสันติสุขของพระเจ้าจะทรงคุ้มครองจิตใจและความคิดของพวกเขา แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความเชื่อที่สามารถเปลี่ยนคุกให้เป็นแท่นบูชาแห่งความยินดี
เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อหนุนใจคริสตจักรที่ฟีลิปปี ซึ่งท่านได้ก่อตั้งและเฝ้าดูการเติบโตขึ้น ประกอบด้วยผู้เชื่อหลายคนที่ท่านได้ประกาศพระกิตติคุณให้ฟัง อาทิ ลิเดียและครอบครัว รวมถึงอดีตผู้คุมเรือนจำ ท่านมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้าที่ทรงเริ่มต้นการดีในพวกเขาและจะทรงทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์ (ฟป 1:6) คำสั่งที่ว่า "จงบากบั่นทำความรอดของท่านให้สำเร็จ" (ฟป 2:12-13) ไม่ได้หมายถึงการพยายามช่วยตัวเองให้รอด แต่เป็นการแสดงความขอบคุณและความยำเกรงต่อพระเจ้าที่ได้ทรงช่วยพวกเขาให้รอด โดยยอมให้พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงพวกเขาให้เป็นเหมือนพระฉายของพระบุตรของพระองค์ผ่านกระบวนการชำระให้บริสุทธิ์
แม้ว่าเปาโลจะถูกจองจำขณะที่เขียนจดหมายฉบับนี้ ท่านยังคงใช้โอกาสนี้ในการแบ่งปันข่าวประเสริฐและมองว่าการทดลองของท่านมีจุดประสงค์ ท่านปรารถนาที่จะอยู่กับพระคริสต์แต่ก็พร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อประโยชน์ของคริสตจักร ท่านหนุนใจชาวฟิลิปปีให้เข้มแข็งในการเผชิญหน้ากับการข่มเหง อย่ากลัวความทุกข์ยาก และจงอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ท่านเน้นย้ำถึงความสำคัญของการถือว่าผู้อื่นสำคัญกว่าตนเอง และแสวงหาประโยชน์ของพวกเขา เช่นเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำเป็นแบบอย่าง
เปาโลยังเตือนพวกเขาให้ระวังผู้ที่บิดเบือนพระกิตติคุณด้วยการยืนกรานเรื่องการเข้าสุหนัต โดยท่านยืนยันว่าการรู้จักพระคริสต์นั้นมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด จนทำให้ความสำเร็จหรือสิทธิพิเศษทางโลกทั้งหมดที่ท่านเคยมีนั้นไร้ความหมาย ท่านยังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างผู้หญิงสองคน โดยกระตุ้นให้พวกเขามีความยินดี มีเหตุผล อธิษฐาน และมอบความกังวลไว้กับพระเจ้าเพื่อรับสันติสุขที่เหนือความเข้าใจ สุดท้าย ท่านขอบคุณชาวฟิลิปปีสำหรับการช่วยเหลือด้านปัจจัยจำเป็นในขณะที่ท่านถูกจองจำ และเตือนพวกเขาว่าเช่นเดียวกับที่พวกเขาได้จัดเตรียมให้แก่ท่าน พระเจ้าก็จะทรงจัดเตรียมสิ่งจำเป็นให้แก่พวกเขาเช่นกัน
ข้อคิด: ฟีลิปปี 1-4
เปาโลกระตุ้นให้เรามุ่งความคิดไปที่ "สิ่งใดเป็นความจริง สิ่งใดที่น่าเคารพ สิ่งใดที่ยุติธรรม สิ่งใดที่บริสุทธิ์ สิ่งใดที่น่ารัก สิ่งใดที่น่าชมเชย ถ้ามีสิ่งใดที่เป็นเลิศ ถ้ามีสิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ" (ฟป 4:8) ซึ่งเป็นเหมือนตัวกรองอันทรงพลังที่ความกลัวส่วนใหญ่ของเราไม่สามารถผ่านไปได้ เพราะมักจะสะดุดตั้งแต่คำถามแรกว่า "สิ่งนี้เป็นความจริงหรือไม่?" ในทางตรงกันข้าม ข่าวประเสริฐของพระคริสต์นั้นผ่านทุกด่านอย่างสมบูรณ์ เพราะเป็นทั้งความจริง น่าเคารพ ยุติธรรม บริสุทธิ์ น่ารัก น่าชมเชย เป็นเลิศ และน่าสรรเสริญ การที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความคิดและการกระทำของเรา ก่อให้เกิดผลที่ดี เช่น ความชื่นชมยินดี ความสุภาพอ่อนโยน การอธิษฐาน และสันติสุข เพราะพระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดแห่งความงดงามเหล่านี้ทั้งหมด การที่เรามุ่งความสนใจและความคิดของเราไปที่พระองค์ จะทำให้จิตใจของเราเต็มไปด้วยความงามและเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีสถิตอยู่เสมอ
คำถาม
1. เมื่อเปาโลประกาศในบทที่ 1 ว่า "สำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร" และมองว่าโซ่ตรวนของท่านกลับช่วย "ผลักดันข่าวประเสริฐ" ให้ก้าวหน้าไป ท่าทีนี้ท้าทายให้เราเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ จากการแสวงหา "ความสุขสบายและความปลอดภัย" สูงสุด ไปสู่สิ่งใด? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของการมีลมหายใจอยู่ ไม่ใช่เพื่อปรนเปรอตนเอง แต่มีไว้เพื่อ "ถวายเกียรติแด่พระคริสต์" ไม่ว่าจะผ่านทางชีวิตหรือความตาย และเพื่อให้เรามองเห็นว่าแม้แต่ความทุกข์ยากก็มีเป้าหมายเพื่อขยายแผ่นดินของพระเจ้า หากเรามีจุดยืนที่ถูกต้อง)
2. ในบทที่ 3 เปาโลเปรียบเทียบความสำเร็จและเกียรติยศทางศาสนาในอดีตว่าเป็นเหมือน "หยากเยื่อ" (ขยะ) เมื่อเทียบกับการได้ "รู้จักพระคริสต์" และท่านกำลัง "บากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย" การจัดลำดับความสำคัญนี้ชวนให้เราตรวจสอบวัตถุประสงค์ของ "ความทะเยอทะยาน" ในปัจจุบันว่า เรากำลังวิ่งแข่งเพื่อรางวัลที่เสื่อมสลาย หรือเพื่อรางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกให้ไปรับ? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของการเติบโตในฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่การสะสมแต้มบุญหรือสร้างโปรไฟล์ทางศาสนาให้ดูดี แต่คือการแสวงหา "ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง" กับพระเยซู และยอมละทิ้งสิ่งที่โลกให้ค่า เพื่อแลกกับความรู้แจ้งและการมีส่วนร่วมในพระคริสต์อย่างแท้จริง)
ฟิลิปปี บทที่ 4 ให้ข้อคิดและคำแนะนำที่ทรงพลังมากเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในความชื่นชมยินดี สันติสุข และการพึ่งพาพระเจ้าในทุกสถานการณ์ นี่คือข้อคิดหลัก ๆ ที่โดดเด่น:
1. ความชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ
- เน้นย้ำ: ข้อ 4 (และบทที่ 1-3) บอกให้เรา "ชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด"
- ข้อคิด: ความชื่นชมยินดีของคริสเตียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก (เช่น ความสะดวกสบายหรือความสำเร็จ) แต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเรากับพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งความชื่นชมยินดีที่ไม่เปลี่ยนแปลง
2. สันติสุขของพระเจ้า
- คำแนะนำ: ข้อ 6-7 แนะนำวิธีการรับสันติสุข คือการ "อย่ากระวนกระวายในสิ่งใด ๆ เลย แต่จงทูลขอทุกสิ่งด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ"
- ผลลัพธ์: "แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจทุกอย่างจะคุ้มครองความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์"
- ข้อคิด: เมื่อเรามอบความกังวลและคำทูลขอของเราแด่พระเจ้าด้วยใจขอบพระคุณ พระองค์จะประทานสันติสุขที่เหนือกว่าเหตุผลหรือความเข้าใจของเรามาปกป้องจิตใจจากความกระวนกระวาย
3. การคิดในสิ่งที่ถูกต้อง
- สิ่งที่ควรคิด: ข้อ 8 สั่งให้เราตั้งใจคิดถึงสิ่งที่เป็นจริง เป็นที่นับถือ เป็นธรรม บริสุทธิ์ น่ารัก น่าชมเชย เป็นคุณธรรม หรือควรแก่การสรรเสริญ
- ข้อคิด: ความคิดของเราส่งผลต่อชีวิตของเราอย่างมาก การเลือกที่จะคิดถึงสิ่งที่ดีงามและเชิงบวกตามหลักการของพระเจ้าจะช่วยให้เรามีชีวิตที่สงบสุขและมีคุณภาพ
4. การพอใจในทุกสถานการณ์
- หลักการ: ข้อ 11-13 เผยให้เห็นเคล็ดลับของการใช้ชีวิตที่พอเพียง: "ข้าพเจ้ารู้จักที่จะอยู่ในทุกสถานการณ์และพอใจในสถานการณ์นั้น"
- แหล่งพลัง: "ข้าพเจ้าสามารถทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า" (ข้อ 13)
- ข้อคิด: เราเรียนรู้ที่จะพอใจในทุกสภาพ (ทั้งมั่งคั่งและขัดสน) โดยไม่ได้พึ่งพาความสามารถของตนเอง แต่พึ่งพาพลังที่มาจากพระคริสต์ที่ประทานให้เรา
5. การช่วยเหลือเกื้อกูลและผลตอบแทนของพระเจ้า
- การถวาย: ข้อ 14-19 แสดงความขอบคุณต่อชาวฟิลิปปีที่ได้ส่งความช่วยเหลือด้านการเงินให้เปาโล
- การรับรอง: ข้อ 19 ให้คำสัญญาที่ยิ่งใหญ่: "และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่พวกท่าน โดยความมั่งคั่งอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์"
- ข้อคิด: การแบ่งปันและสนับสนุนงานของพระเจ้าเป็นสิ่งที่น่าพอใจต่อพระองค์ และพระองค์ผู้ทรงเป็นผู้จัดเตรียมทุกสิ่งจะทรงตอบแทนและเติมเต็มความต้องการของเราตามพระสิริของพระองค์
ฟิลิปปี บทที่ 4 คือสูตรแห่งชีวิตที่เปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี และสันติสุขโดยการอธิษฐานอย่างไม่กระวนกระวาย คิดถึงสิ่งที่ดีงามและพอใจในทุกสถานการณ์ผ่านกำลังที่มาจากพระคริสต์