Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 43

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 44

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 45

เรื่องย่อ

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อโยเซฟทดสอบพี่น้องของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยการกักขังเบนจามินน้องชายคนสุดท้องไว้ ก่อนจะเปิดเผยตัวตนและอภัยให้กับพี่ๆ หลังจากหลายปีแห่งการพลัดพราก พี่น้องได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เต็มไปด้วยความโล่งใจ ความเสียใจ และการสำนึกผิด โยเซฟแสดงให้เห็นถึงความเมตตาและการให้อภัย โดยเชื้อเชิญให้พี่น้องและครอบครัวทั้งตระกูลมาอยู่ที่อียิปต์เพื่อเอาชีวิตรอดจากความอดอยาก การรวมตัวกันครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนแห่งโอกาส แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความไม่แน่นอนของอนาคต

 

 

ว่าด้วยเรื่องการให้อภัย หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องยาก วันนี้เรามาดูว่าพระธรรมในตอนนี้ได้สอนอะไรเรา เริ่มจากการกลับมาพบกันของโยเซฟกับพี่น้องของเขานับเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ โยเซฟวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อทดสอบพี่น้องของเขาว่าพวกเขาเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใดหลังจากเหตุการณ์ที่พวกเขาขายเขาไปเป็นทาส การจัดที่นั่งตามลำดับอาวุโส การให้ส่วนแบ่งอาหารแก่เบ็นจามินเป็นพิเศษ และการซ่อนถ้วยเงินในกระเป๋าของเบ็นจามินล้วนเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและความพยายามที่จะประเมินความจริงใจของพี่น้อง โยเซฟต้องการแน่ใจว่าพี่น้องของเขาได้เรียนรู้บทเรียนจากความผิดพลาดในอดีตและได้เปลี่ยนใจจริง ๆ ก่อนที่จะเปิดเผยตัวตนของตนเอง

ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุดเมื่อถ้วยเงินถูกพบในกระเป๋าของเบ็นจามิน ยูดาห์แสดงถึงความกล้าหาญและความรับผิดชอบอย่างน่าทึ่ง เขาเสนอตัวที่จะเป็นทาสแทนเบ็นจามิน คำพูดของยูดาห์แสดงให้เห็นถึงการกลับใจและความสำนึกผิดอย่างแท้จริง ความเสียสละของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อครอบครัว และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากชายที่เคยเห็นด้วยกับการขายโยเซฟ การกระทำของยูดาห์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการให้อภัยและการกลับใจ

การเปิดเผยตัวตนของโยเซฟทำให้พี่น้องตกตะลึง ความรู้สึกผิดและความกลัวของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยความอัศจรรย์ และโยเซฟได้แสดงให้เห็นถึงความเมตตาและการให้อภัยอย่างล้นเหลือ การเชื้อเชิญให้พี่น้องและครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ที่อียิปต์แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของเขาที่จะชดเชยความผิดในอดีตและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ที่อิงจากความรักและการให้อภัย เรื่องราวของโยเซฟจึงไม่ใช่เพียงเรื่องราวของการให้อภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวของการฟื้นฟูความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ทรงพลัง ซึ่งเกิดจากการกระทำของพระเจ้า

 

ข้อคิด: ปฐมกาล 43-45

เรื่องราวของโยเซฟกับพี่น้องเขาเผยให้เห็นถึงพลังแห่งการให้อภัยและเสรีภาพที่พบได้ในพระเจ้า โยเซฟไม่ได้ปล่อยให้ความผิดในอดีตของพี่น้องมาขัดขวางแผนการของพระเจ้า แต่กลับวางใจในอำนาจสูงสุดของพระเจ้าในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ พระเจ้าทรงให้อภัยพี่น้องของโยเซฟ และทรงเชื้อเชิญให้พวกเขารับการให้อภัยนั้น เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงให้อภัยเรา เราจึงได้รับเสรีภาพจากการแบกภาระความผิดบาป ไม่ว่าจะเป็นบาปที่เราทำต่อผู้อื่นหรือบาปที่เราทำต่อตนเอง การให้อภัยของพระเจ้าเป็นพื้นฐานของเสรีภาพที่แท้จริง เป็นเสรีภาพจากความเสียใจ ความกลัว และความอับอาย โยเซฟพบเสรีภาพนั้น พี่น้องของเขาก็พบเช่นกัน และพระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราทุกคนเข้าสู่เสรีภาพนั้นด้วย เพราะพระเจ้าทรงเป็นเสรีภาพ และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความปีติยินดีอยู่

 

คำถาม

1.   ในบทที่ 43 เมื่อพี่น้องของโยเซฟต้องกลับไปอียิปต์เพื่อขออาหารอีกครั้ง ความกลัวและความลังเลใจทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงในอดีต คุณคิดว่าการเผชิญหน้ากับความกลัวและความไม่แน่นอนในชีวิตมีความสำคัญอย่างไร? เราจะสามารถสนับสนุนตัวเองและผู้อื่นในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้อย่างไร?

2.   ในบทที่ 45 โยเซฟเปิดเผยตัวตนของเขาและให้อภัยพี่น้อง คุณเห็นว่าการให้อภัยในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนั้นสำคัญต่อการหลีกหนีจากอดีตและการสร้างอนาคตใหม่ได้อย่างไร? คุณคิดว่าการให้อภัยมีบทบาทอะไรในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคมปัจจุบัน?

  

 

พี่น้องไทยมิชชั่นครับ ท่านต้องให้อภัยผู้ที่ทำผิดต่อท่าน ถึงแม้จะเป็นคนใกล้ตัวเช่นสามีหรือภรรยาของท่าน  เป็นเรื่องที่ท้าทายและอาจต้องใช้เวลา แต่การเอาแบบอย่างจากโยเซฟ สามารถช่วยให้ท่านผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างสงบและมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

ทำไมต้องเอาแบบอย่างโยเซฟ?

  • โยเซฟเป็นตัวอย่างของการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่: แม้จะถูกพี่น้องทรยศหักหลัง โยเซฟก็ยังสามารถให้อภัยพวกเขาได้อย่างหมดใจ
  • โยเซฟเข้าใจแผนการของพระเจ้า: โยเซฟตระหนักว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามแผนการของพระเจ้า และเขาสามารถเห็นคุณค่าในทุกสถานการณ์
  • โยเซฟมองการณ์ไกล: โยเซฟไม่เพียงแต่ให้อภัย แต่เขายังมองหาโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพี่น้องของเขา

วิธีนำแบบอย่างของโยเซฟมาใช้

1.   เข้าใจว่าการให้อภัยเป็นกระบวนการ: การให้อภัยไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทันทีทันใด อาจต้องใช้เวลาและความพยายาม

2.   ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง: อย่าปฏิเสธความรู้สึกโกรธ เคือง หรือเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ให้ยอมรับมันอย่างเปิดใจ

3.   เข้าใจมุมมองของพี่น้อง: พยายามมองสถานการณ์จากมุมมองของพี่น้องของคุณ อาจจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เขาทำผิดพลาด

4.   ให้อภัยตัวเอง: การให้อภัยตัวเองก็สำคัญเช่นกัน อย่าตำหนิตัวเองที่รู้สึกโกรธหรือเจ็บปวด

5.   สื่อสารกับพี่น้อง: พูดคุยกับพี่น้องของคุณอย่างเปิดใจ บอกให้เขาฟังว่าคุณรู้สึกอย่างไร และอธิบายว่าทำไมคุณถึงตัดสินใจที่จะให้อภัย

6.   ปล่อยวาง: เมื่อคุณตัดสินใจให้อภัยแล้ว ให้ปล่อยวางความโกรธแค้นทั้งหมดไป อย่าเก็บมาคิดวนเวียน

7.   ขอความช่วยเหลือ: หากคุณรู้สึกว่าการให้อภัยเป็นเรื่องยาก ลองปรึกษาศิษยาภิบาลหรือพี่เลี้ยงที่คุณไว้วางใจ หรือหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วย

ประโยชน์ของการให้อภัย

  • ความสงบสุขภายใน: การให้อภัยจะช่วยให้คุณรู้สึกสงบสุขและมีความสุขมากขึ้น
  • ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น: การให้อภัยจะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพี่น้องของคุณ
  • สุขภาพที่ดีขึ้น: การเก็บความโกรธแค้นไว้ในใจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
  • เป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้อื่น: การให้อภัยเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเมตตาและความรัก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้เชื่อทุกคน