Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
กันดารวิถี 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
กันดารวิถี 4

เรื่องย่อ

พระธรรมกันดารวิถีบทที่ 3-4  เล่าเรื่องราวการเตรียมการสำหรับการเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา  โมเสสได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้ทำการสำรวจแผ่นดินคานาอัน โดยส่งคน 12 คนไปสำรวจ  รายงานที่กลับมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  สิบคนเน้นความยากลำบากและความน่ากลัวของแผ่นดิน  แต่สองคนคือ  โยชูวาและคาเลบ กลับมองเห็นความเป็นไปได้และความอุดมสมบูรณ์  ความไม่เชื่อและความหวาดกลัวของประชาชนทำให้พวกเขาเลือกที่จะไม่เข้าสู่แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้  ส่งผลให้พระเจ้าลงโทษพวกเขาด้วยการให้พวกเขาต้องเร่ร่อนในถิ่นทุรกันดารอีก 40 ปี  นี่เป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความเชื่อ ความเชื่อฟัง และความสำคัญของการมองเห็นโอกาสท่ามกลางความยากลำบาก

 


เมื่อพระเจ้าทรงสั่งโมเสสเกี่ยวกับการสร้างสังคมและการตั้งค่าย พระองค์ได้เน้นความสำคัญของการรับใช้พลับพลาที่สร้างขึ้นใหม่ในถิ่นทุรกันดาร อาโรนและบุตรชายของเขา เอเลอาซาร์และอิธามาร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพลับพลา โดยมีชาวเลวีจากเผ่าของพวกเขามาช่วยรับใช้ พระเจ้าทรงมีกระบวนการสำมะโนประชากรสามครั้งเพื่อกำหนดบทบาทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเลือกชาวเลวีให้ทำหน้าที่แทนบุตรหัวปีของอิสราเอล โดยพระองค์ทรงเรียกให้ชาวเลวีเป็นบุตรหัวปีของพระองค์

ในระหว่างการสำมะโนประชากรครั้งที่สอง โมเสสตรวจสอบจำนวนชาวเลวีที่ขาดอยู่ 273 คน พระเจ้าจึงได้จัดเตรียมวิธีการให้ครอบครัวของอิสราเอลที่ไม่มีชาวเลวีเป็นตัวแทนสามารถมอบเงินห้าเชเขลแทนได้ วิธีนี้ทำให้มั่นใจว่าครอบครัวทั้งหมดมีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ให้กับพลับพลา แม้ว่าไม่สามารถให้บริการโดยตรงก็ตาม

ในกระบวนการนี้ พบว่ามีกลุ่มชาวเลวีสามกลุ่ม ได้แก่ ชาวเกอร์โชน ชาวโคฮาท และชาวเมรารี ซึ่งแต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ดูแลภารกิจเฉพาะในการปกป้องพลับพลา ชาวเกอร์โชนดูแลม่านและองค์ประกอบที่เกี่ยวกับผ้า ชาวเมรารีดูแลโครงสร้าง เช่น เสา และชาวโคฮาทมีหน้าที่รับผิดชอบต่อภาชนะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงเวลาย้ายค่าย อาโรนและลูกชายจะเก็บภาชนะศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปยังสถานที่ใหม่ โดยชาวโคฮาททำหน้าที่ขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ในระหว่างการเดินทาง พระเจ้าทรงมอบตำแหน่งที่มีเกียรติให้กับชาวเลวี โดยให้พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์และทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้าและประชาชนของพระองค์

 

ข้อคิด: กันดารวิถี 3-4

ทั้งเผ่าที่ใหญ่ที่สุดอย่างยูดาห์และเผ่าที่เล็กที่สุดอย่างเลวีต่างก็ได้รับการต้อนรับและมอบเกียรติในแผนงานของพระเจ้า โดยมีบทบาทสำคัญในการรับใช้ราชอาณาจักรของพระองค์ การปรนนิบัติผู้คนเป็นวิธีหนึ่งในการรับใช้ แม้ว่าสิ่งของที่ทำอาจจะหนักและไม่น่าดึงดูด แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อให้พลับพลาทำหน้าที่ได้ดีและทุกคนในอิสราเอลได้รับพร คนที่รับใช้ในคริสตจักรมักจะได้รับคำชมเชยมากกว่า แต่ความสำคัญของการรับใช้เบื้องหลังนั้นไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะทุกบทบาทที่ทุกคนทำในคริสตจักรมีค่าและได้รับการแต่งตั้งโดยพระเจ้า ดังนั้นจงปรนนิบัติพระเจ้าด้วยความยินดี เพราะพระองค์อยู่ในทุกความชื่นชมยินดีที่เราแบ่งปัน

 

คำถาม

1.   ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ: ในกันดารวิถี 3-4 พระเจ้าทรงเรียกเลือกสรรคนงานเพื่อทำหน้าที่ของตน คุณคิดว่าในสังคมปัจจุบันเราจำเป็นต้องมีผู้นำทางจิตวิญญาณแบบใดบ้าง? แนวคิดนี้สามารถประยุกต์ใช้ในคริสตจักรได้อย่างไร?

2.   การรับผิดชอบและการทำงานร่วมกัน: พระเจ้าทรงกำหนดบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกันให้กับคนงานในกันดารวิถี 3-4 คุณคิดว่าการมีความรับผิดชอบที่ชัดเจนในทีมงานหรือในครอบครัวสามารถส่งผลต่อความสำเร็จได้อย่างไร? และเราจะส่งเสริมการทำงานร่วมกันในคริสตจักรอย่างไร?

 

 

 

 การจัดวางเผ่าต่างๆ รอบพลับพลา

พระเจ้าทรงกำหนดให้พลับพลาเป็นศูนย์กลางของค่าย และให้แต่ละเผ่าตั้งค่ายอยู่รอบพลับพลา โดยมีลำดับและตำแหน่งที่ชัดเจน ดังนี้:

  • ด้านหน้า (ทิศตะวันออก): โมเสส อาโรน และบุตรชายของเขา (เผ่าเลวี) ตั้งค่ายอยู่ด้านหน้าพลับพลา เพื่อดูแลรักษาพลับพลาและปฏิบัติหน้าที่เป็นปุโรหิต
  • ด้านใต้: เผ่ารูเบน เผ่าสิเมโอน และเผ่ากาด ตั้งค่ายอยู่ทางใต้ของพลับพลา
  • ด้านตะวันตก: เผ่าเอฟราอิม เผ่ามนัสเสห์ และเผ่าเบนยามิน ตั้งค่ายอยู่ทางตะวันตกของพลับพลา
  • ด้านเหนือ: เผ่าดาน เผ่าอาเชอร์ และเผ่านัฟทาลี ตั้งค่ายอยู่ทางเหนือของพลับพลา

ความหมายและความสำคัญของการจัดวาง

การจัดวางเผ่าต่างๆ รอบพลับพลามีความหมายและความสำคัญหลายประการ:

  • ความเป็นศูนย์กลางของพระเจ้า: พลับพลาเป็นสัญลักษณ์ของการสถิตของพระเจ้าท่ามกลางชนชาติอิสราเอล การจัดวางเผ่าต่างๆ รอบพลับพลาแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางของชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่าง
  • การปกป้องและความศักดิ์สิทธิ์: การจัดวางเผ่าเลวีไว้รอบพลับพลาเป็นการปกป้องพลับพลาจากการบุกรุกและการลบหลู่ นอกจากนี้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพลับพลาและเครื่องบูชาต่างๆ
  • ความเป็นระเบียบและความเป็นหนึ่งเดียวกัน: การจัดวางเผ่าต่างๆ อย่างเป็นระเบียบแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของชนชาติอิสราเอล และความสำคัญของการเชื่อฟังและทำตามพระบัญชาของพระเจ้า
  • การแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ: แต่ละเผ่ามีหน้าที่และความรับผิดชอบที่แตกต่างกันในการดูแลรักษาพลับพลาและการปฏิบัติศาสนกิจ การจัดวางตำแหน่งของแต่ละเผ่าช่วยให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

บทเรียนจากการจัดเผ่าต่างๆ รอบพลับพลา

เรื่องราวการจัดเผ่าต่างๆ รอบพลับพลาในพระธรรมกันดารวิถีสอนเราถึงความสำคัญของการมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต การเชื่อฟังและทำตามพระบัญชาของพระเจ้า การทำงานร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ และการเคารพในสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนใจให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์